top of page

งานวิศวกรรมระบบของโรงพยาบาล ต่างจากอาคารทั่วไปอย่างไร?

โดย จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

16 June 2025

ree

หากพูดถึง “โรงพยาบาล” หลายคนคงนึกถึงสถานที่ที่ดูสะอาด เป็นระเบียบ เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรที่พร้อมดูแลชีวิตของผู้คนตลอด 24 ชั่วโมง แต่เบื้องหลังความพร้อมนั้น คือระบบวิศวกรรมที่ต้องออกแบบและดูแลอย่างละเอียดอ่อน แตกต่างจากอาคารทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะแม้ระบบจะซ่อนอยู่หลังฝ้า ใต้พื้น หรือในห้องเครื่อง แต่ทุกจุดล้วนมีผลโดยตรงต่อ “ชีวิตคนไข้” ทุกวินาที


บทความนี้จะพาไปดูว่า ระบบวิศวกรรมในโรงพยาบาลมีอะไรพิเศษ และต่างจากอาคารทั่วไปอย่างไรบ้าง


1. ระบบไฟฟ้า: พลังงานที่ขาดไม่ได้แม้เพียงวินาทีเดียว


ความต่อเนื่องคือชีวิต

  • ระบบไฟฟ้าในโรงพยาบาลต้อง “ไม่สะดุด” โดยเฉพาะในห้องผ่าตัด ห้อง ICU หรือเครื่องช่วยชีวิตทุกชนิด

  • ใช้ระบบ UPS (Uninterruptible Power Supply) พร้อมแบตเตอรี่ เพื่อจ่ายไฟอย่างต่อเนื่องเมื่อไฟดับชั่วคราว


ไฟฟ้าสำรอง

  • มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ที่สามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 8 ชั่วโมง

  • แม้จะมีช่วงเวลา delay ราว 30 วินาทีหลังไฟดับก่อน generator ทำงาน ระบบสำคัญจะได้ไฟจาก UPS รองรับไว้แล้ว


ป้องกันอันตรายต่อคนไข้

  • ในห้องผ่าตัดใช้ Isolation Transformer เพื่อป้องกันไฟรั่ว และลดความเสี่ยงจากไฟดูดในบริเวณที่มีการสัมผัสร่างกายโดยตรง


2. ระบบปรับอากาศ: ควบคุมทั้งอุณหภูมิ เชื้อโรค และทิศทางลม


กรองและควบคุมเชื้อ

  • ใช้ HEPA filter และระบบฟอกอากาศคุณภาพสูง เพื่อดักจับเชื้อโรค

  • ควบคุมทิศทางการไหลของอากาศ:

    • ให้อากาศไหลจาก “สะอาดมาก” ไป “สะอาดน้อย”

    • เช่น จากโซนปลอดเชื้อไปยังโซนผู้ป่วยแพร่เชื้อ เพื่อลดการปนเปื้อน

ควบคุมสภาพอากาศ

  • อุณหภูมิและความชื้นต้องเหมาะสมกับการรักษา เช่น ห้องผ่าตัดจะต้องมีอุณหภูมิและความชื้นที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ

  • ห้องที่มีป่วยปลอดเชื้อ ต้องมีความดันสูงกว่าโดยรอบหรือ positive pressure

  • ห้องที่มีผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศได้ ต้องมีความดันต่ำกว่าโดยรอบ หรือ negative pressure


ไม่หยุดแม้ไฟดับ

  • พื้นที่สำคัญ เช่น ห้องผ่าตัด ห้องแยกโรค ห้องแลป ห้องฆ่าเชื้อ ต้องเชื่อมกับไฟฟ้าสำรอง เพื่อให้ระบบทำงานได้ตลอดเวลา


3. ระบบประปาและการจัดการน้ำเสีย: น้ำสะอาดคือยารักษาอย่างหนึ่ง


น้ำสะอาดต้องเสถียร

  • น้ำใช้ในโรงพยาบาลต้องสะอาดกว่ามาตรฐานอาคารทั่วไป

  • มีระบบสำรองและระบบสูบน้ำที่เชื่อมกับไฟฟ้าสำรอง เพื่อให้น้ำไหลต่อเนื่องแม้ไฟดับ


น้ำพิเศษเพื่อการรักษา

  • เช่น น้ำบริสุทธิ์สำหรับเครื่องฟอกไต (Dialysis Water) ที่ต้องผลิตตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างเข้มงวด


การบำบัดน้ำเสีย

  • น้ำเสียจากผู้ป่วยติดเชื้อ ต้องผ่านการบำบัดก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำทิ้งสาธารณะ

  • น้ำเสียจากห้องแลป ต้องผ่านการบำบัดทางเคมีและชีวภาพ หรือส่งไปยังระบบบำบัดพิเศษ


4. การจัดการขยะติดเชื้อ: ไม่ใช่แค่ทิ้งให้พ้นตัว

  • ขยะติดเชื้อ เช่น ผ้าก๊อซเปื้อนเลือด เข็มใช้แล้ว หรือชิ้นส่วนร่างกาย ต้องแยกจากขยะทั่วไปอย่างชัดเจน

  • ต้องจัดเก็บในภาชนะเฉพาะ และส่งต่อไปยัง ศูนย์กำจัดขยะติดเชื้อ โดยใช้วิธีเผาอย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ


บทส่งท้าย: วิศวกรรมเพื่อชีวิต


ทุกระบบในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า อากาศ น้ำ หรือการจัดการของเสีย ล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญที่คอยสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์อย่างเงียบๆ แต่ทรงพลัง


หากอาคารทั่วไปคือ “เครื่องจักร” ที่ต้องเดินได้ดี โรงพยาบาลก็คือ “ร่างกาย” ที่ต้องมีระบบไหลเวียน ทำงานอย่างแม่นยำ เสถียร และพร้อมตลอดเวลา


และเบื้องหลังร่างกายที่แข็งแรงนั้น… คือหัวใจของทีมวิศวกรผู้ไม่เคยปล่อยให้ระบบหยุดแม้เพียงวินาทีเดียว


Chakrapan Pawangkarat

  • TikTok
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page