ทำไม “ระบบระบายอากาศในอุโมงค์รถไฟฟ้า” ถึงสำคัญกว่าที่เราคิด
- Chakrapan Pawangkarat
- Oct 3
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property and Asset Management, JLL Thailand
อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย (ACAT)
อดีตประธานสาขาเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.)
3 October 2025

เวลาเราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน หลายคนอาจไม่เคยคิดเลยว่า ข้างใต้ดินที่ดูสงบเรียบร้อยนั้น จริง ๆ แล้วซ่อน “ระบบวิศวกรรม” ขนาดใหญ่เอาไว้เพื่อดูแลเราอยู่ตลอดเวลา หนึ่งในนั้นคือ ระบบระบายอากาศในอุโมงค์ (Tunnel Ventilation System – TVS) ที่ทำงานเงียบ ๆ แต่มีบทบาทสำคัญมากในการสร้าง “ความปลอดภัย” ให้กับทุกคน
อุโมงค์ = พื้นที่ปิดที่ต้องใส่ใจเรื่องอากาศ
ลองจินตนาการว่าเราอยู่ในท่อขนาดใหญ่ยาวหลายกิโลเมตร ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีช่องลม ถ้าไม่มีระบบที่ออกแบบมาอย่างดี อากาศภายในอุโมงค์จะร้อน อับชื้น และอาจสะสมควันหรือฝุ่นจนเป็นอันตรายได้
ดังนั้น รถไฟฟ้าใต้ดินทุกเส้นทางจึงต้องมีระบบที่ช่วยควบคุมทั้ง อุณหภูมิ ความดัน การไหลเวียนอากาศ และการจัดการควันไฟ
ระบบนี้ทำงานอย่างไร?
จริง ๆ แล้ว TVS ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจค่ะ ลองแบ่งเป็น 3 โหมดหลัก ๆ
โหมดปกติ รถไฟที่วิ่งอยู่ในอุโมงค์ทำหน้าที่เหมือน “ลูกสูบ” ดันอากาศไปข้างหน้าและดูดอากาศจากด้านหลังเข้าไป เรียกว่า Piston Effect อากาศจึงไหลเวียนโดยธรรมชาติ
โหมดรถติดขัด ถ้าเกิดเหตุทำให้รถไฟหยุดนิ่งในอุโมงค์ ระบบพัดลมจะเข้ามาช่วย “ผลักและดูด” อากาศให้เคลื่อนที่ต่อเนื่อง ลดความร้อนสะสม และช่วยให้เครื่องปรับอากาศในขบวนรถยังทำงานได้
โหมดฉุกเฉิน (ไฟไหม้) นี่คือโหมดที่สำคัญที่สุด หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ระบบจะเร่งพัดลมเพื่อควบคุมทิศทางการไหลของควันให้ไปในทางเดียว ป้องกันไม่ให้ควันย้อนกลับ (Back-layering) และเปิดทางอพยพที่ปลอดควันให้ผู้โดยสารหนีออกได้อย่างปลอดภัย
มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
ระบบนี้ไม่ได้ออกแบบตามใจชอบ แต่ใช้มาตรฐานสากล เช่น NFPA 130 (สหรัฐอเมริกา) และมาตรฐานวิศวกรรมของไทยที่กำหนดชัดเจนว่า
อุณหภูมิในอุโมงค์ต้องไม่เกิน 40°C
เส้นทางหนีไฟต้องไม่เกิน 50°C
ความเร็วลมต้องเพียงพอที่จะกันควันไม่ให้ย้อนกลับ
พูดง่าย ๆ คือ ต้องมั่นใจว่าต่อให้เกิดเหตุร้ายแรง คนยังมี “โอกาสรอด” สูงที่สุด
เบื้องหลังการออกแบบ
สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ กว่าที่ระบบหนึ่งจะถูกสร้างขึ้น ต้องผ่านการ จำลองเหตุการณ์ในคอมพิวเตอร์
โปรแกรม SES ใช้ทำนายการไหลของอากาศและอุณหภูมิในสถานการณ์ต่าง ๆ
โปรแกรม CFD ใช้จำลองการแพร่กระจายของควันและตรวจสอบว่าเส้นทางอพยพยังปลอดภัย
นี่จึงไม่ใช่การออกแบบแบบ “เดา ๆ” แต่เป็นการวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์เพื่อให้มั่นใจว่าทุกวินาทีในสถานการณ์จริง ผู้โดยสารจะปลอดภัยที่สุด
ใครควบคุมระบบนี้?
ไม่ใช่ว่ามีพัดลมแล้วก็เปิด ๆ ปิด ๆ ธรรมดา ระบบ TVS ควบคุมด้วย SCADA (ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง) ที่สั่งงานอัตโนมัติได้
ศูนย์ควบคุมกลาง (OCC) เป็นผู้สั่งงานหลัก
สถานีและจุดอุโมงค์ต่าง ๆ จะมีแผงควบคุมสำรอง เผื่อกรณีฉุกเฉิน
พนักงานดับเพลิงยังสามารถสั่งระบบได้โดยตรง
ทุกคำสั่งเชื่อมโยงกันหมด เพื่อไม่ให้มี “พลาด” ในเวลาวิกฤติ
แล้วเราควรรู้อะไร?
สำหรับคนทั่วไป สิ่งที่ควรตระหนักมีเพียง 2 เรื่อง
มั่นใจได้ว่าระบบนี้ทำงานเพื่อความปลอดภัยของเรา – ตั้งแต่การระบายอากาศปกติไปจนถึงเหตุฉุกเฉิน
ฟังคำแนะนำเวลาเกิดเหตุ – ถ้ามีประกาศให้อพยพ ควรเดินตามเส้นทางที่กำหนด เพราะเบื้องหลังคือการวางแผนการไหลของควันและเส้นทางอากาศไว้แล้ว
บทส่งท้าย
รถไฟฟ้าใต้ดินไม่ได้มีแค่ขบวนรถและราง แต่ยังเต็มไปด้วย “วิศวกรรมซ่อนเร้น” ที่ทำให้การเดินทางของเราปลอดภัยและสะดวกสบาย ระบบระบายอากาศในอุโมงค์อาจไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น แต่เป็นเสมือน “ผู้พิทักษ์เงียบ” ที่คอยดูแลชีวิตคนนับล้านทุกวัน
ครั้งหน้าที่ทุกคนก้าวลงไปในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน ลองหันไปมองช่องลมบ้างนะคะ แล้วจะรู้ว่าเบื้องหลังความเงียบสงบ มีพลังงานมหาศาลที่ทำงานเพื่อเราทุกคนอยู่ตลอดเวลา 🚇💨


