top of page

รายการตรวจสอบระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (MEP) หลังแผ่นดินไหว

Updated: Apr 14



จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.)

8 April 2025



1. ความปลอดภัยทั่วไปและการประสานงาน

ก่อนเริ่มการตรวจสอบ:

  •  ได้รับการยืนยันความมั่นคงโครงสร้างจากวิศวกรโครงสร้าง

  •  มีการให้ข้อมูลโดยสรุปเรื่องความเสี่ยง (ของตก, แก๊สรั่ว, ไฟไหม้)

  •  สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน (หมวกนิรภัย, รองเท้านิรภัย, ถุงมือ, แว่นตา, เสื้อสะท้อนแสง)

  •  อุปกรณ์พร้อม: ไฟฉาย, มัลติมิเตอร์, กล้องถ่ายภาพความร้อน, เครื่องตรวจแก๊ส, เครื่องวัดความชื้น, เครื่องวัดอุณหภูมิ

  •  ทบทวนแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน (ทางออก, การสื่อสาร, จุดรวมพล)

  •  ประสานงานกับทีมดูแลอาคาร, หน่วยกู้ภัย, ทีมซ่อมบำรุง


2. ระบบเครื่องกล (Mechanical Systems)

A. ระบบปรับอากาศ (HVAC)

  •  ตรวจสอบการยึดอุปกรณ์ (AHU, Chiller, VRF) – ตรวจหารอยแตก, น็อตหลุด

  •  ตรวจท่อส่งลม: จุดแยก, ข้อต่อหลุด, ตัวแขวนหัก

  •  ตรวจรอยรั่วของน้ำยาแอร์หรือคราบน้ำมันบริเวณคอมเพรสเซอร์หรือท่อ

  •  Cooling Tower – ตรวจการเคลื่อนตัว, รอยแตกร้าว, ตัวลดแรงสั่นสะเทือน

  •  FCU ติดเพดาน – ตรวจน้ำรั่ว, น้ำหยด, ความไม่มั่นคงหรือหลวม

  •  ระบบควบคุม (DDC, BMS) ใช้งานได้, เซนเซอร์ตรงตำแหน่ง

  •  Damper ควัน/ไฟ – ตอบสนองคำสั่ง, อยู่ในตำแหน่งปลอดภัย

  •  ตรวจสอบการไหลของลม (หากทำได้) เพื่อตรวจหาการเสียสมดุล

B. ระบบดับเพลิง

  •  หัวสปริงเกอร์ – บิดเบี้ยว, รั่ว, แตก

  •  ขาแขวนท่อ – หลวม, โค้งงอ, ยึดพื้นไม่แน่น

  •  เครื่องสูบน้ำดับเพลิง – การสั่น, การเยื้องศูนย์, การตอบสนองของคอนโทรลเลอร์

  •  แผงควบคุมสัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ – เปิดใช้งาน, ไม่มีไฟ Fault

  •  ถังเก็บน้ำ – ฐานตั้งมั่นคง, วาล์วลูกลอย, โครงสร้างรองรับ, การรั่วซึม

3. ระบบไฟฟ้า

A. ระบบจ่ายไฟหลัก

  •  ตู้เมน (MDB, DB) – บิดงอ, ไหม้, คอนแทคเตอร์ผิดปกติ

  •  เบรกเกอร์ตก – ตรวจสอบสาเหตุ, ทดสอบรีเซ็ตอย่างปลอดภัย

  •  สายไฟ/ราง Busduct – ฉีกขาด, หลุดจากราง, หุ้มฉนวนเสียหาย, เสียรูปบิดเบี้ยว

  •  ขั้วสาย – มีรอยไหม้หรือฉนวนกรอบ

B. ระบบไฟฟ้าสำรอง

  •  เครื่องกำเนิดไฟฟ้า – ฐานเคลื่อน, ท่อน้ำมันปริแตก, ท่อไอเสียแตกร้าว

  •  ทดสอบ ATS – การเปลี่ยนแหล่งจ่าย, เวลา Delay, แรงดัน/ความถี่

  •  UPS – สภาพแบตเตอรี่, อุณหภูมิรอบข้าง, อินเวอร์เตอร์ทำงานได้

C. ระบบต่อลงดินและสายต่อประสาน

  •  หลุมกราวด์ – ทดสอบความต่อเนื่อง

  •  สายต่อลงดิน – ไม่หลุด, ขั้วต่อไม่หัก

  •  ระบบสายล่อฟ้า – ต่อครบถ้วนถึงกราวด์

D. ระบบความปลอดภัยชีวิต

  •  ไฟฉุกเฉิน – ทดสอบการใช้งานอย่างน้อย 30 นาที

  •  ป้ายทางออก – ส่องสว่างและหันทิศทางถูกต้อง

  •  ระบบประกาศเสียงตามสาย – ใช้งานได้

  •  โทรศัพท์ฉุกเฉิน – ทดสอบทุกชั้น

4. ระบบประปา สุขาภิบาล และแก๊ส

  •  ตรวจน้ำรั่ว/แรงดันตก – ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อน/เกจแรงดัน

  •  เครื่องสูบน้ำ – ฐานแน่น, ไม่มีเสียงแปลก, มีน้ำไหลเข้าเครื่องสูบน้ำ

  •  อุปกรณ์แขวนที่ข้องอและจุดต่อขยาย – แน่น

  •  อุปกรณ์กันน้ำย้อนกลับ, PRV – ตรวจสอบด้วยสายตาและการทำงาน, ความดัน

  •  ระบบระบายน้ำ – บ่อพัก, P-Trap, ความลาดของท่อ

  •  ท่อแก๊ส – ใช้เครื่องตรวจรั่ว, ทดสอบความดัน, ตรวจสอบกลิ่น

  •  ถังน้ำร้อน – ยึดมั่นคง, วาล์วนิรภัยไม่รั่ว

5. ระบบขนส่งแนวดิ่ง (ลิฟต์/บันไดเลื่อน)

  • ห้ามใช้ลิฟต์ – จนกว่าได้รับการยืนยันจากช่างลิฟต์

  •  ปล่องลิฟต์ – มีน้ำท่วมหรือเศษวัสดุขวางหรือไม่?

  •  ห้องเครื่องลิฟต์ – ระบายอากาศ, ไม่มีน้ำรั่ว, เข้าถึงตู้ควบคุมได้

  •  ทดสอบระบบ Fire Recall, แผงควบคุมชั้นทำงานได้

  • ทดสอบระบบขอความช่วยเหลือจากภายในลิฟต์, ระบบสื่อสารด้วยเสียง (Intercom)

  •  บันไดเลื่อน – ราวจับไม่เบี้ยว, ขั้นบันไดเคลื่อนปกติ, ปุ่มหยุดฉุกเฉินใช้งานได้

6. เอกสารและการติดแท็ก

  •  ถ่ายภาพความเสียหายพร้อมวันเวลาและตำแหน่ง.

  •  กรณีที่ต้องการสื่อสารให้ชัดเจน ติดแท็ก:

    • แดง – อันตราย ใช้งานไม่ได้

    • เหลือง – ใช้ได้บางส่วน มีความเสี่ยง

    • เขียว – ตรวจสอบผ่าน ใช้งานได้

  •  ใช้แบบฟอร์มหรือแอปบันทึก – วันเวลา, ชื่อผู้ตรวจ, หมายเหตุ

  •  สรุปรายงานแยกตามระบบ, ความเร่งด่วน, และข้อเสนอแนะซ่อมแซม


รายการตรวจสอบระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (MEP) สำหรับโรงพยาบาล


โรงพยาบาลต้องให้ความสำคัญกับระบบที่เกี่ยวข้องกับการช่วยชีวิต แนะนำให้แบ่งเป็น ระยะที่ 1 – ตรวจสอบระบบฉุกเฉิน และ ระยะที่ 2 – การประเมินการฟื้นฟู


A. ระบบแก๊สทางการแพทย์

  •  ท่อออกซิเจน – ทดสอบรั่วด้วยฟองสบู่, ความดันคงที่

  •  แร็คถังแก๊ส – ยึดแน่น, ถังถูกล่ามโซ่.

  •  วาล์วแงโซน/วาล์วตัดการทำงาน – ป้ายชัดเจน ใช้งานได้

  •  แผงเตือนกลาง – โซนออนไลน์ครบ, ไม่มีแจ้งเตือนรั่ว

  •  ระบบสูญญากาศ/ลมทางการแพทย์ – ปั๊มเสียงผิดปกติ, ฟิลเตอร์อุดตัน, สูญญากาศคงที่

B. ห้องผ่าตัด ห้องแยกผู้ป่วยและห้อง ICU

  •  ตรวจสอบความดันห้องบวก/ลบ – ทดสอบด้วยควันหรือเกจ

  •  แผงกรอง HEPA – ไม่รั่ว, ยึดแน่น, ทิศทางการไหลอากาศถูกต้อง

  •  พัดลมดูดอากาศห้องแยก – ใช้งานได้, ไม่มีเสียงหรือสั่นมาก

  •  ระบบปรับอากาศห้องผ่าตัด – ทดสอบการควบคุมอุณหภูมิ/ความชื้น/ความดันบวก, ทิศทางการไหลอากาศ, ความสะอาดของอากาศ

C. ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน

  •  ทดสอบ Generator ภายใต้โหลดใช้งานจริง

  •  ATS – ตรวจสอบเวลาสลับแหล่งจ่ายและบันทึกสถานะ

  •  ทดสอบ UPS – เวลาใช้งานของ ICU, NICU, Telemetry

  •  อุปกรณ์ MRI/CT – เปิดปิดได้ตามปกติ, ระบบระบายความร้อนทำงาน

D. ระบบน้ำสำหรับการแพทย์

  •  ระบบ RO – ปั๊ม, เมมเบรน, ค่า TDS ผ่านเกณฑ์

  •  ถังน้ำล้างเครื่องมือ – ไม่มีตะกอน, ไม่รั่ว

  •  ท่อน้ำไปยังเครื่องล้างไต/เครื่องนึ่ง – แรงดัน, อัตราการไหลดี

E. ระบบสื่อสารและควบคุม

  •  ระบบเรียกพยาบาล – ตอบสนองทุกสถานี

  •  ระบบเสียงภายใน, Fire Phone – ใช้งานได้

  •  ระบบ BMS/SCADA – แจ้งเตือนครบ, ทดสอบ fault จำลอง

F. การควบคุมการติดเชื้อ

  •  ฝ้าเพดานปิดสนิท, ไม่มีฝุ่นในพื้นที่ปลอดเชื้อ

  •  ผนังไม่แตก, ไม่มีวัสดุหลุดในโซนปลอดเชื้อ

  •  หากเกิดความเสียหาย ให้เริ่ม มาตรการป้องกันชั่วคราว กับทีมควบคุมการติดเชื้อทันที




Acknowledgement:

"This article was generated with the assistance of ChatGPT, an AI tool, and subsequently reviewed and edited by the author."

Comments


Chakrapan Pawangkarat

  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
bottom of page