top of page

วิศวกรอาคารต้องรู้ EP.2 : รู้จักระบบปรับอากาศในอาคารให้ลึกแต่ไม่ยาก

Updated: Apr 19

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

18 April 2025

จากซีรีส์: วิศวกรอาคารต้องรู้

ระบบปรับอากาศในอาคาร ไม่ได้มีแค่แอร์เย็นๆ เท่านั้น แต่เป็น “ระบบ” ที่กินไฟมากที่สุด และส่งผลต่อความสบายของทุกคนในอาคารในฐานะวิศวกรอาคาร เราควรรู้จักระบบต่างๆ ที่ใช้ในอาคารให้ดี เพื่อดูแล บำรุงรักษา และประหยัดพลังงานได้อย่างมืออาชีพ


ระบบปรับอากาศ 3 แบบหลักที่พบบ่อยในอาคาร

1. ระบบน้ำเย็น (Chilled Water System)

  • ใช้ในอาคารขนาดใหญ่ เช่น สำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล

  • มี Chiller ผลิตน้ำเย็น ป้อนเข้า AHU และ FCU

  • ต้องมี Cooling Tower, ปั๊มน้ำ, ระบบควบคุม

  • ประหยัดไฟเมื่อมีโหลดสูง แต่ซับซ้อน ต้องดูแลต่อเนื่อง

2. ระบบ VRF (Variable Refrigerant Flow)

  • นิยมในอาคารขนาดกลาง เช่น สำนักงาน low-rise, คลินิก

  • มี Outdoor Unit กลาง เชื่อมหลาย Indoor Unit ด้วยท่อน้ำยา

  • ควบคุมแต่ละโซนแยกกันได้ ประหยัดไฟ ยืดหยุ่นสูง

  • ต้องดูแลเรื่องการเดินท่อน้ำยาและตั้งค่าระบบ

3. ระบบแยกส่วน (Split Type)

  • ใช้ทั่วไปในร้านค้า ห้องพัก พื้นที่ขนาดเล็ก

  • ติดตั้งง่าย ราคาต่ำ แต่สิ้นเปลืองเมื่อใช้หลายตัว

  • ควบคุมรวมศูนย์ไม่ได้ เหมาะกับการใช้งานเดี่ยว

สิ่งที่วิศวกรควรตรวจสอบเป็นประจำ

  • อุณหภูมิน้ำเย็นเข้า-ออก Chiller (จ่ายประมาณ 6–7°C และ กลับประมาณ 11–12°C)

  • เสียง/กลิ่นจาก AHU, FCU

  • การรั่วซึมของน้ำ หรือคราบน้ำหยด

  • ค่ากระแสไฟฟ้าและแรงดันของปั๊ม

  • สภาพแผ่นกรองอากาศ – ล้างอย่างน้อยเดือนละครั้ง

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

  • แอร์ไม่เย็น: อาจเกิดจากท่อลมรั่ว พัดลมเสีย

  • ทำงานตลอดแต่ห้องยังร้อน: โหลดสูงเกิน หรือระบบควบคุมผิดพลาด

  • เสียงเครื่องดัง หรือหยุด-ติดถี่: คอมเพรสเซอร์เริ่มมีปัญหา

  • น้ำหยดจากเพดาน: ถาดน้ำคอนเดนส์ตัน หรือท่อน้ำทิ้งตัน


เทคนิคประหยัดพลังงานแบบมือโปร

  • ตั้งอุณหภูมิห้องที่ 24–25°C

  • ใช้ VSD ปรับรอบพัดลม/ปั๊มตามโหลดจริง

  • ตั้งเวลาเปิด–ปิดระบบตามพฤติกรรมใช้งาน

  • ใช้ BMS ช่วยควบคุมและแจ้งเตือนความผิดปกติ

คุณภาพอากาศในอาคารก็สำคัญ (Indoor Air Quality – IAQ)

เรื่องที่ต้องใส่ใจ:

  • ระดับ PM2.5 ภายใน: ไม่เกิน 25 µg/m³

  • ระดับ CO₂: ไม่เกิน 1,000 ppm

  • ประสิทธิภาพแผงกรอง: MERV 13 ขึ้นไป

  • เติมอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกให้เพียงพอ

อ้างอิงตามกฎหมาย:

  • พรบ.ควบคุมอาคาร กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 กำหนดให้อาคารต้องมีการระบายอากาศและเติมอากาศจากภายนอก

  • มาตรฐาน วสท. แนะนำให้อาคารสำนักงานมีอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 8 ลิตร/วินาที/คน

แนวทางปฏิบัติ:

  • ติดตั้ง CO₂ Sensor เชื่อมกับระบบพัดลม Fresh Air ปรับปริมาณตามความต้องการจริง

  • ตรวจสอบและล้างแผ่นกรองอากาศเป็นประจำ

  • ใช้ Pre-filter หรือ Electrostatic Filter หากอยู่ในพื้นที่ฝุ่นมาก

สรุปท้ายบท

ระบบปรับอากาศที่ดี ต้องเย็นพอดี อากาศสะอาด ควบคุมง่าย และกินไฟน้อยและทั้งหมดนี้ จะเวิร์กได้ ก็ต่อเมื่อมี “วิศวกรอาคาร” ที่เข้าใจระบบ ดูแลอย่างใส่ใจ

EP.3: ไฟฟ้าในอาคารไม่ใช่แค่เปิด-ปิดรอติดตามได้เร็วๆ นี้ ที่ www.jack-journal.com และ Facebook เพจ Jack Journal มีเรื่องมาเล่า



Acknowledgement:

"This article was generated with the assistance of ChatGPT, an AI tool, and subsequently reviewed and edited by the author."

Comments


Chakrapan Pawangkarat

  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
bottom of page