top of page

วิศวกรอาคารต้องรู้ EP.6: ระบบความปลอดภัยอัคคีภัย – ไม่ใช่แค่ดับไฟ แต่ต้องช่วยชีวิตได้จริง

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

20 April 2025



จากซีรีส์: วิศวกรอาคารต้องรู้

ระบบอัคคีภัยในอาคารไม่ใช่แค่ “มีไว้ผ่านตรวจ”แต่คือระบบช่วยชีวิต ที่ต้องพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพราะ “ไฟไหม้ไม่เคยมีวันหยุด”และ “วิศวกรอาคาร” คือผู้อยู่เบื้องหลังความปลอดภัยในนาทีวิกฤต


1. ระบบตรวจจับและแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System)

  • Smoke / Heat Detector ตรวจจับควันหรือความร้อน

  • Manual Pull Station จุดกดแจ้งเหตุด้วยมือ

  • Alarm Bell / Beacon Light ส่งสัญญาณเตือน

  • Fire Alarm Control Panel ควบคุมและแสดงสถานะระบบทั้งหมด

  • ต้องเชื่อมต่อกับ Control Room และระบบ BMS

วิศวกรต้องตรวจสอบ:

  • Fault Alarm มีหรือไม่

  • ทดสอบสัญญาณเสียง/ไฟเป็นรายเดือน

  • เช็กแบตเตอรี่สำรองให้พร้อมใช้งานเสมอ


2. ระบบดับเพลิงด้วยน้ำ (Water-Based Fire Protection Systems)

2.1 Sprinkler System

  • หัวฉีดน้ำทำงานอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิสูงถึงจุดกำหนด

  • ทำงานเฉพาะหัวที่เจอความร้อน

  • ต่อกับระบบ Fire Pump และถังเก็บน้ำ

2.2 Manual Hose Reel / Hydrant

  • สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้มีทักษะ

  • ต้องมีความดันใช้งานเพียงพอ

  • ต้องติดป้ายคำแนะนำใช้งาน

2.3 Standpipe System

  • ท่อหลักจ่ายน้ำทั่วอาคาร ให้เจ้าหน้าที่ต่อสายดับเพลิงได้

  • ใช้ร่วมกับรถดับเพลิง

2.4 Fire Pump System

  • ประกอบด้วย Jockey Pump, Electric Main Pump, Diesel Pump

  • ทำงานอัตโนมัติเมื่อแรงดันลด

  • ต้องมีไฟสำรองแยกจากระบบหลัก

วิศวกรต้องตรวจสอบ:

  • ทดสอบปั๊มน้ำทุกสัปดาห์

  • เช็กแรงดัน, สถานะ Battery, น้ำมันดีเซล

  • ตรวจสอบหัวฉีด / Valve / Flow Switch ทุกเดือน

  • บันทึกลง Log Book อย่างครบถ้วน


3. ระบบดับเพลิงเฉพาะที่ (Special Fire Suppression)

  • เช่น FM-200, CO₂, Chemical

  • ใช้ในห้อง Server, ห้อง MDB, ห้องครัว

  • ต้องมีระบบตรวจจับควบคุมและระบบระบายอากาศหลังฉีด

สิ่งที่วิศวกรต้องตรวจสอบ:

  • ตรวจวัดแรงดันถัง

  • เช็กการทำงานของ Control Panel

  • ทดสอบระบบตามรอบมาตรฐานของผู้ผลิต


4. ระบบควบคุมควัน (Smoke Control Systems)

4.1 Pressurised Staircase

  • รักษาแรงดันบันไดหนีไฟไม่ให้ควันเข้ามา

  • ใช้พัดลมแรงดันสร้างค่า ~50–60 Pa

  • เชื่อมต่อ Fire Alarm ทำงานอัตโนมัติ

4.2 Pressurised Fireman Lift Lobby

  • แรงดัน ~50-60 Pa ป้องกันควันในโถงหน้าลิฟต์ดับเพลิง

  • ใช้พัดลมแยกต่างหาก พร้อมไฟสำรอง

4.3 Smoke Exhaust System

  • พัดลมดูดควันออกจากพื้นที่ต้นเพลิง

  • เชื่อมกับ Duct / Smoke Damper / Smoke Detector

  • มี Manual Override ให้เจ้าหน้าที่ควบคุม

วิศวกรต้องตรวจสอบ:

  • วัดแรงดันจริงด้วย Pressure Gauge

  • ทดสอบการทำงานของพัดลมและสัญญาณ

  • เช็กจุดรั่วในระบบท่อ / Duct / Damper


5. ข้อกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

กฎกระทรวงควบคุมอาคาร ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535)

  • อาคารสูงต้องมี Fire Alarm, Fire Pump, Sprinkler, Fireman Lift

  • ต้องมีระบบ Pressurised Stair / Fireman Lift Lobby

  • ต้องมีทางหนีไฟ แสงสว่างฉุกเฉิน และระบบไฟสำรอง


กฎกระทรวงความปลอดภัย พ.ศ. 2554 / 2564

  • ระบบอัคคีภัยในสถานประกอบการต้องตรวจสอบและบำรุงรักษา

  • ระบบพิเศษ เช่น FM-200 ต้องทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

  • ต้องมีแผนฝึกซ้อมอพยพและบันทึกผลทุกปี


บทบาทของวิศวกรอาคาร

  • วางแผน PM ครอบคลุมทุกระบบ

  • ตรวจสอบอุปกรณ์ สื่อสารกับผู้เช่า และบริหารทีมช่าง

  • จัดเก็บเอกสาร ตรวจสอบประวัติการทดสอบและบำรุงรักษา

  • ทำงานร่วมกับ BMS และ Fire Panel อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เตรียมแผนหนีไฟร่วมกับผู้เช่า และจัดการซ้อมอพยพ


สรุปท้ายบท

ระบบอัคคีภัยไม่ใช่แค่ให้ “มี” แต่ต้อง “พร้อมทำงานได้จริง”และต้องไม่ลืมว่า “ควัน” มาถึงก่อน “ไฟ”ใครที่ทำให้ระบบพร้อม 100% อยู่เสมอ ก็คือ “วิศวกรอาคาร” ที่ไม่เคยประมาท

EP.7: ระบบ BAS และ Smart Building – เมื่ออาคารคิดเองได้ วิศวกรต้องรู้ทันระบบอัจฉริยะรอติดตามได้ที่ www.jack-journal.com และเพจ Jack Journal มีเรื่องมาเล่า



Comments


Chakrapan Pawangkarat

  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
bottom of page