การเปรียบเทียบระบบปรับอากาศ VRF และระบบน้ำเย็น: ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับอาคารของคุณ
- Chakrapan Pawangkarat
- Jun 7
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property and Asset Management, JLL Thailand
อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย (ACAT)
7 June 2025

ในการออกแบบระบบปรับอากาศสำหรับอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคารขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง ผู้บริหารอาคารและวิศวกรมักจะต้องเลือกระบบที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและความต้องการเฉพาะของอาคารแต่ละแห่ง ระบบปรับอากาศแบบ VRF (Variable Refrigerant Flow) และ ระบบน้ำเย็น (Chilled Water System) เป็นสองตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในอาคารสมัยใหม่ ทั้งสองระบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งในบทความนี้จะทำการเปรียบเทียบระหว่างสองระบบนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ต้นทุนการติดตั้ง
ต้นทุนในการติดตั้งระบบปรับอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกใช้งานระบบใดระบบหนึ่ง
ระบบ VRF:
ระบบ VRF มีต้นทุนการติดตั้งที่ สูงกว่า ระบบแอร์แยกส่วนทั่วไป แต่ ต่ำกว่าระบบน้ำเย็น เนื่องจากการติดตั้งระบบ VRF ต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย รวมถึงการออกแบบที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ
ระบบ VRF ใช้ท่อขนาดเล็กและไม่จำเป็นต้องมีห้องเครื่องขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ห้องเครื่อง สามารถเพิ่มพื้นที่ขายได้มากขึ้น
ระบบน้ำเย็น:
การติดตั้งระบบน้ำเย็นมี ต้นทุนสูงที่สุด เนื่องจากต้องใช้เครื่องชิลเลอร์ ท่อส่งน้ำเย็นขนาดใหญ่ และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อน ซึ่งเหมาะสมกับอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในการระบายความร้อน แต่ก็สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่าและมีความคุ้มค่าในระยะยาว
2. ประสิทธิภาพในการทำงาน
ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบปรับอากาศจะส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดพลังงานและความสะดวกสบายของผู้ใช้
ระบบ VRF:
ระบบ VRF มีประสิทธิภาพสูงและมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถปรับการไหลของสารทำความเย็นตามความต้องการของพื้นที่ต่างๆ ได้ จึงช่วยควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำแม้จะเปิดใช้งานพื้นที่เพียงบางส่วน
ระบบนี้เหมาะสำหรับอาคารที่มีหลายพื้นที่ที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิแยกกัน เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม หรืออาคารที่มีฟังก์ชันต่างๆ กัน และอาจใช้งานไม่พร้อมกันในแต่ละพื้นที่
ระบบน้ำเย็น:
ระบบน้ำเย็นมีประสิทธิภาพสูงในกรณีของอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการทำความเย็นในพื้นที่กว้าง เพราะใช้การระบายความร้อนจากน้ำ ซึ่งทำให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงกินพลังงานต่ำ
อย่างไรก็ตาม ระบบน้ำเย็นมีข้อจำกัดที่ต้องเดินเครื่องขนาดใหญ่ ไม่เหมาะกับการเดินระบบสำหรับพื้นที่บางส่วนขนาดเล็ก ซึ่งระบบน้ำเย็นจะมีประสิทธิภาพต่ำมากขณะเดินเครื่องที่โหลดน้อยๆ
3. ความยืดหยุ่นในการควบคุมอุณหภูมิ
การควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับอาคารที่มีการใช้งานหลายรูปแบบ
ระบบ VRF:
ระบบ VRF มี ความยืดหยุ่นสูง เพราะสามารถควบคุมอุณหภูมิในแต่ละห้องหรือพื้นที่แยกกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิที่แตกต่างกันในแต่ละห้อง เช่น ห้องประชุม, ห้องทำงาน, หรือพื้นที่พักผ่อน
ระบบน้ำเย็น:
ระบบน้ำเย็นมีความยืดหยุ่นในการทำความเย็นในระดับหนึ่ง แต่ ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่ย่อยๆ ได้เหมือนระบบ VRF
เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่ขนาดใหญ่ หรือมีการใช้งานพื้นที่่ขนาดใหญ่ของอาคารพร้อมๆกัน
4. พื้นที่ติดตั้งและการบำรุงรักษา
ความสะดวกในการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบปรับอากาศจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ระบบ VRF:
ระบบ VRF ประหยัดพื้นที่ เนื่องจากใช้ท่อขนาดเล็กและไม่ต้องการห้องเครื่องขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ติดตั้งในอาคาร
การบำรุงรักษาค่อนข้างง่ายและไม่ต้องการพื้นที่สำหรับติดตั้งระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่
ระบบน้ำเย็น:
ระบบน้ำเย็นต้องการพื้นที่ติดตั้งที่มากกว่าเนื่องจากต้องใช้เครื่องชิลเลอร์ เครื่องสูบน้ำ และหอระบายความร้อนขนาดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้การติดตั้งและบำรุงรักษามีความยุ่งยาก
การบำรุงรักษาระบบน้ำเย็นค่อนข้างซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญในการดูแลระบบระบายความร้อน
5. การทำงานในสภาพอากาศร้อน
การทำงานของระบบปรับอากาศจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิภายนอก โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัด
ระบบ VRF:
ระบบ VRF ซึ่งระบายความร้อนด้วยอากาศ สามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิสูง แต่ อาจมีข้อจำกัด ในบางกรณีที่สภาพอากาศร้อนจัด จะทำให้ประสิทธิภาพลดลง
ระบบน้ำเย็น:
ระบบน้ำเย็นซึ่งระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำงานได้ดีกว่าใน สภาพอากาศร้อนจัด เนื่องจากมีความสามารถในการระบายความร้อนที่ดีกว่าและสามารถทำความเย็นในพื้นที่กว้างได้ดี
สรุป:
การเลือกใช้ระบบ VRF หรือ ระบบน้ำเย็น ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของอาคารและความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน หากคุณมีอาคารขนาดใหญ่หรืออาคารที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำและยืดหยุ่น ระบบ VRF จะเป็นตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะสำหรับอาคารที่มีหลายพื้นที่ที่ต้องการการควบคุมที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกัน ระบบน้ำเย็น เหมาะสำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการความเย็นในพื้นที่กว้างและมีการใช้งานพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมๆกัน
การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานของระบบปรับอากาศในอาคารมีประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาว


