Designing Workplaces to Drive Success – เมื่อการออกแบบออฟฟิศกลายเป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร
- Chakrapan Pawangkarat
- Oct 24
- 2 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
24 October 2025

บทความ “The future of office design : Designing Workplaces to Drive Success” [https://www.jll.com/en-us/insights/designing-workplaces-to-drive-success] สะท้อนชัดว่า “สถานที่ทำงาน” ไม่ใช่เพียงพื้นที่ทางกายภาพอีกต่อไป แต่คือ “กลยุทธ์หลักขององค์กร” ที่เชื่อมโยงคน – วัฒนธรรม – ประสิทธิภาพ และ ความยั่งยืน เข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น
องค์กรชั้นนำทั่วโลกกำลังใช้ Workplace Design เป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบ ทั้งในการดึงดูดคนเก่ง สร้างประสิทธิภาพ และ กระตุ้นนวัตกรรม ให้เกิดขึ้นได้จริงในทุกวันทำงาน
🌍 จากพื้นที่ทำงาน สู่ “ระบบนิเวศแห่งความสำเร็จ”
การสำรวจ Future of Work Survey 2024 ของ JLL ระบุว่า เป้าหมายหลักขององค์กรทั่วโลกในยุคนี้คือ
การดึงดูดและรักษาคนเก่ง (Talent)
การสร้างประสิทธิภาพสูงสุด (Efficiency)
การขับเคลื่อนนวัตกรรม (Innovation)
แต่ความจริงแล้ว ออฟฟิศจำนวนมากยังไม่ตอบโจทย์ ทั้งในด้านเสียงรบกวน ความสบายทางอุณหภูมิ และพื้นที่สำหรับงานที่ต้องใช้สมาธิ ทำให้ workplace กลายเป็นโจทย์เชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่เพียงงานตกแต่ง
องค์กรกว่า 64% คาดว่าจำนวนพนักงานจะเพิ่มขึ้นใน 5 ปีข้างหน้า และ 54% เตรียมขยายพื้นที่ทำงาน นี่คือสัญญาณชัดว่า Workplace Investment ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่คือ “การลงทุนเพื่ออนาคตขององค์กร”
💡 Workplace: เครื่องมือทางกลยุทธ์ (Strategic Tool)
ในโลกหลัง COVID-19 การกลับมาของพนักงานไม่ได้เกิดจาก “หน้าที่” แต่จาก “ความหมาย”การออกแบบสถานที่ทำงานที่ดีจึงไม่ใช่การสร้างความหรูหรา แต่คือการสร้าง Purpose
กรณีศึกษา JLL Tokyo เป็นตัวอย่างที่โดดเด่น สำนักงานแห่งนี้ออกแบบตามหลัก Science-led Design โดยเก็บข้อมูลการรับรู้ของพนักงาน รวมถึงการวัดคลื่นสมอง (EEG) เพื่อเข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้งานผลลัพธ์คือ ความพึงพอใจของพนักงานเพิ่มจาก 58 → 83 และ productivity เพิ่มจาก 52 → 71 ในสเกล 100
สิ่งนี้ตอกย้ำว่า “ข้อมูล และ การออกแบบเชิงวิทยาศาสตร์” คือเครื่องมือยกระดับประสิทธิภาพได้จริง
🧭 ออฟฟิศยุคใหม่ ต้องออกแบบเพื่อ “คนทุกแบบ”
Workplace ที่ตอบโจทย์อนาคต ต้องรองรับความหลากหลายของพฤติกรรมและความต้องการของคนทำงาน
🔹 Focus Zone
พื้นที่สงบ สำหรับงานที่ต้องการสมาธิ เช่น Phone Pod หรือ Quiet Room
🔹 Collaboration Zone
พื้นที่ยืดหยุ่น สำหรับทีม ระดมความคิด แลกเปลี่ยน และสร้างพลังร่วม
🔹 Social Zone
มุมกาแฟ ลอบบี้ หรือโถงทางเดิน ซึ่งกลายเป็น “จุดบังเอิญแห่งนวัตกรรม” (Serendipity)
เพราะนวัตกรรมจำนวนมากไม่ได้เริ่มจาก “ห้องประชุม” แต่เกิดจาก “บทสนทนาเล็กๆ ระหว่างเพื่อนร่วมทีม”
🧠 Workplace ที่เข้าใจ “จิตวิทยาองค์กร”
การออกแบบออฟฟิศที่ดี ต้องเข้าใจ Organizational Psychology เพราะความสำเร็จขององค์กรไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงาน แต่อยู่ที่การสร้าง “พฤติกรรมการเชื่อมโยง” ของคนในองค์กร
การออกแบบที่เริ่มจากการเข้าใจ วัฒนธรรม ทีม และ โครงสร้างการสื่อสาร จะช่วยให้ workplace กลายเป็นพื้นที่ที่เสริมพลัง แทนที่จะจำกัดศักยภาพ
“Design is not about beauty. It’s about behavior.”การออกแบบไม่ใช่เรื่องของความสวยงาม แต่มันคือการออกแบบพฤติกรรมของคนในองค์กร
🌿 Workplace คือหัวใจของ Sustainability
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างการออกแบบ กับ ความยั่งยืน
68% ขององค์กรทั่วโลกจะเพิ่มงบ sustainability ใน 5 ปีข้างหน้า 72% จะเลือกเช่าเฉพาะอาคารที่มี Green Credentials และยังมีช่องว่างของอาคารคาร์บอนต่ำระดับ Grade A กว่า 70% ภายในปี 2030
นี่คือ “โอกาสทางกลยุทธ์” ของผู้พัฒนาและผู้บริหารอาคารในการเปลี่ยนทุกตารางเมตรให้เป็นสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ ESG และ Value Creation พร้อมกัน
🔁 Refurbishment และ Circular Economy
องค์กรจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนแนวทางจากการสร้างใหม่ สู่การ “รีดีไซน์เพื่อคุณค่าใหม่” แนวคิด Refurbishment & Circular Economy กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก
เฟอร์นิเจอร์ วัสดุ และโครงสร้างเก่าถูกรีไซเคิลหรือ up-cycle เพื่อยืดอายุการใช้งาน ลดการปล่อยคาร์บอน และสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้สถานที่ทำงาน
อาคารที่ออกแบบเพื่อความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามยุค คือคำตอบของ sustainable workplace อย่างแท้จริง
🧩 Workplace ในฐานะ Culture Platform
เหตุผลที่คนอยากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ ไม่ใช่แค่เรื่องของเก้าอี้หรือโต๊ะทำงาน แต่คือ “วัฒนธรรมและความเชื่อมโยง”
Workplace ที่ดีคือพื้นที่ที่ เล่าเรื่องราวขององค์กร ผ่านดีไซน์ กลิ่น แสง เสียง และการเคลื่อนไหวของผู้คน มันคือ “เวทีของวัฒนธรรมองค์กร” (Culture Platform) ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ และ คุณค่าที่องค์กรยึดถือ
เมื่อการออกแบบสร้าง sense of belonging และ purpose ให้คนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง องค์กรก็จะได้สิ่งตอบแทนกลับมาในรูปของ ความผูกพัน และ ผลงานที่ดีที่สุด
🧬 Cognitive Workplace – ออฟฟิศที่เรียนรู้ได้
อนาคตของสถานที่ทำงานจะไม่หยุดแค่ Smart Building แต่จะพัฒนาไปสู่ Cognitive Workplace – ออฟฟิศที่เรียนรู้และตัดสินใจร่วมกับคนได้
AI และ Data Analytics จะกลายเป็นระบบประสาทของอาคาร เชื่อมข้อมูลตั้งแต่การใช้งานพื้นที่ คุณภาพอากาศ ไปจนถึง Occupant Experience แบบ real-timeอาคารจะ “เข้าใจ” พฤติกรรมของผู้คนมากขึ้น และสามารถปรับการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
นี่คือทิศทางที่เทคโนโลยีและงานบริหารอาคารต้องเดินคู่กันอย่างแท้จริง
📊 Workplace Transformation Roadmap สู่อนาคต
เพื่อให้ workplace เป็นทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์อย่างแท้จริง องค์กรควรวางแผนใน 5 มิติหลัก
People Insight – เข้าใจความต้องการของพนักงานผ่าน survey และ data เชิงพฤติกรรม
Flexible Design – ออกแบบพื้นที่ให้เปลี่ยนรูปแบบได้ รองรับ Hybrid Work
Technology Integration – วางระบบ IoT, AI และ Smart Sensor เพื่อติดตามการใช้งานจริง
Well-being & Green Elements – เพิ่มแสงธรรมชาติ อากาศดี ต้นไม้ และพื้นที่พักผ่อน
Measurement & Improvement – ตั้ง KPI ด้าน satisfaction productivity และ carbon performance เพื่อปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
✨ บทสรุป: Design คือ Decision
บทความ “The future of office design: Designing Workplaces to Drive Success” ของ JLL สะท้อนสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก —การออกแบบออฟฟิศในวันนี้ คือการตัดสินใจทางกลยุทธ์ขององค์กรในวันพรุ่งนี้
Workplace ที่ดีจะกลายเป็นเครื่องมือขับเคลื่อน People, Purpose และ Performance ไปพร้อมกันและในโลกที่การแข่งขันอยู่บนฐานของ “ประสบการณ์มนุษย์” ออฟฟิศที่ออกแบบด้วยความเข้าใจคน คือองค์กรที่พร้อมจะชนะในระยะยาว
“Design is not decoration. It is strategy.”— Jack Journal Perspective


