top of page

Robotics-Ready Building: เตรียมอาคารให้หุ่นยนต์ทำงานได้จริง

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

6 September 2025


ree

บทนำ: จาก Smart Building สู่ Robotics-Ready Building


ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการบริหารอาคารก้าวสู่ยุค Smart Building อย่างเต็มตัว อาคารไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างที่ให้ที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงานอีกต่อไป แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี การจัดการพลังงาน ความปลอดภัย และประสบการณ์ผู้ใช้อาคารเข้าด้วยกัน


แต่วันนี้ คำถามใหม่เกิดขึ้น: “เราพร้อมสำหรับหุ่นยนต์หรือยัง?”


หุ่นยนต์กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในงานอาคาร ตั้งแต่งานพื้นฐานอย่างการทำความสะอาด พ่นฆ่าเชื้อ ยกขนวัสดุ จนถึงงานที่ซับซ้อน เช่น การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในฝ้าเพดาน หรืองานจัดส่งพัสดุข้ามชั้นในสำนักงานขนาดใหญ่ การออกแบบอาคารให้ “Robotics-Ready” จึงไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็น เงื่อนไขการออกแบบในปัจจุบัน หากเจ้าของทรัพย์สินและนักพัฒนาโครงการต้องการให้อาคารของตน แข่งขันได้ในระยะยาว


1. ทำไมอาคารต้อง Robotics-Ready?


1.1 แรงผลักจากเศรษฐกิจและสังคม

  • ค่าแรงสูงขึ้น: ประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้วต่างเผชิญค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หุ่นยนต์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในงานซ้ำ ๆ ได้

  • การขาดแคลนแรงงาน: งานทำความสะอาด งานรักษาความปลอดภัย มักประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร หุ่นยนต์จึงเป็นคำตอบ

  • ความปลอดภัยและสุขภาพ: หลังโควิด-19 อาคารต้องมีมาตรฐานสุขอนามัยสูงขึ้น หุ่นยนต์ทำงานฆ่าเชื้อหรือทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงแทนคนได้


1.2 แรงผลักจากเทคโนโลยี

  • AI และ Computer Vision ทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่และหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้น

  • 5G และเครือข่าย IoT ทำให้หุ่นยนต์สื่อสารแบบ Real-time กับระบบอาคาร

  • แบตเตอรี่และระบบชาร์จอัตโนมัติ ช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้ต่อเนื่อง


1.3 มูลค่าเพิ่มเชิงธุรกิจ

อาคารที่ Robotics-Ready มีข้อได้เปรียบทางการตลาด เช่น

  • ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาต่ำกว่า

  • ผู้เช่ารู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในคุณภาพบริการ

  • ภาพลักษณ์ล้ำสมัย ดึงดูดองค์กรที่เน้นนวัตกรรม


2. หลักการออกแบบ Robotics-Ready Building


2.1 Design for Robots (DfR)

คือการปรับ “สิ่งแวดล้อม” ให้หุ่นยนต์ทำงานได้ง่าย เช่น

  • ปรับทางเดินให้ต่อเนื่อง ลดสิ่งกีดขวาง

  • ทำธรณีประตูเตี้ยลง หรือติด Ramp

  • ใช้วัสดุพื้นผิวที่เซ็นเซอร์หุ่นยนต์อ่านได้ชัด


2.2 Design of Robots (DoR)

คือการพัฒนาหุ่นยนต์ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมอาคาร เช่น

  • เพิ่มความสามารถปีนพื้นต่างระดับ

  • พัฒนากล้อง Lidar หรือกล้อง IR เพื่อใช้ในสภาพแสงน้อย

  • ปรับโครงสร้างหุ่นยนต์ให้เข้าประตูหรือขึ้นลิฟต์ได้


ในทางปฏิบัติ อาคารที่ Robotics-Ready ต้องผสมผสานทั้งสองแนวคิด เพื่อให้หุ่นยนต์และสิ่งแวดล้อมทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น


3. พื้นที่และการสัญจร: หุ่นยนต์ต้อง “เดินได้จริง”


3.1 ความกว้างและความสูง

  • โถงทางเดินควรกว้างพอสำหรับหุ่นยนต์และคนใช้ร่วมกัน โดยไม่เกิดการชนกัน

  • พื้นที่หมุนตัวของหุ่นยนต์ เช่น บริเวณหน้าลิฟต์ ต้องกว้างพอสำหรับการกลับตัว


3.2 ทางลาดและพื้นผิว

  • พื้นต้องเรียบต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงรอยแตกหรือรอยต่อที่สูงเกิน 1 ซม.

  • ทางลาดไม่ควรชันเกินไปเพื่อให้หุ่นยนต์ขึ้นลงได้ปลอดภัย


3.3 การแยกพื้นที่ใช้งาน

  • ในช่วงเวลาที่คนหนาแน่น ควรกำหนด “ตารางเวลา” การใช้ทางเดินของหุ่นยนต์ เช่น ให้หุ่นยนต์เก็บขยะในช่วงกลางคืน


4. Integration กับระบบอาคาร


4.1 ลิฟต์และประตูอัตโนมัติ

  • ลิฟต์ต้องมีระบบที่อนุญาตให้หุ่นยนต์เรียกและเลือกชั้นได้

  • ประตูต้องเปิดกว้างและเร็วพอ ไม่ทำให้หุ่นยนต์ติดค้าง


4.2 ระบบจัดการอาคาร (BMS/FMS)

  • หุ่นยนต์ต้องรับข้อมูลจาก BMS เช่น สภาพแวดล้อม ความชื้น หรืออุณหภูมิ

  • FMS สามารถสั่งงานหุ่นยนต์ เช่น “ไปเก็บขยะชั้น 12” ได้โดยอัตโนมัติ


4.3 ระบบสื่อสาร

  • ต้องมีสัญญาณ Wi-Fi หรือ 5G ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงลิฟต์และห้องน้ำ

  • เครือข่ายต้องมีการป้องกันไซเบอร์ เพื่อป้องกันการแฮ็กหุ่นยนต์


5. จุดสนับสนุนหุ่นยนต์


5.1 Charging Station

  • พื้นที่จอดและชาร์จต้องมีระบบระบายอากาศ

  • ควรมี Fire Detector ป้องกันความร้อนสะสม

  • ต้องติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย แต่ไม่รบกวนผู้ใช้อาคาร


5.2 พื้นที่ล้างและบำรุงรักษา

  • หุ่นยนต์ทำความสะอาดต้องมีพื้นที่ล้างหัวแปรงและถังเก็บน้ำเสีย

  • ต้องมีท่อน้ำดี–น้ำทิ้ง รองรับการล้างทุกวัน


5.3 การจัดเก็บและความปลอดภัย

  • ห้องเก็บหุ่นยนต์ควรล็อกได้

  • ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัย


6. การนำทางและการระบุตำแหน่ง


6.1 Landmark และ Visual Markers

  • ใช้ QR code บนพื้นหรือกำแพงช่วยให้หุ่นยนต์หาทางได้ง่าย

  • ใช้สีสันหรือ Texture ที่ชัดเจนเพื่อให้เซ็นเซอร์ตรวจจับได้ดี


6.2 Digital Twin และ Simulation

  • จำลองการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ในอาคารตั้งแต่ขั้นออกแบบ

  • ตรวจสอบจุดเสี่ยง เช่น ทางตัน พื้นต่างระดับ


6.3 AI Navigation

  • ใช้ AI วิเคราะห์ Pattern ของคนในอาคาร เพื่อปรับเส้นทางการเดินของหุ่นยนต์แบบ Real-time


7. พื้นที่ใช้งานจริง: ตัวอย่างการนำหุ่นยนต์ไปใช้


7.1 สนามบิน

  • หุ่นยนต์ทำความสะอาดพื้นทางเดินยาว ๆ

  • หุ่นยนต์ขนสัมภาระเบา ๆ ไปยัง Gate


7.2 โรงพยาบาล

  • หุ่นยนต์ส่งยาและเวชภัณฑ์ข้ามตึก

  • หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV ในห้องผู้ป่วย


7.3 อาคารสำนักงาน

  • หุ่นยนต์ส่งพัสดุภายในองค์กร

  • หุ่นยนต์ตรวจสอบฝ้าเพดานด้วยกล้อง 360


8. Checklist: 10 ข้อทำให้อาคาร Robotics-Ready

  1. โถงทางเดินกว้าง ≥ 1.5 ม.

  2. ประตูอัตโนมัติสูง ≥ 2 ม. กว้าง ≥ 1 ม.

  3. พื้นเรียบ รอยต่อไม่เกิน 1 ซม.

  4. ลิฟต์รองรับการสั่งงานโดยหุ่นยนต์

  5. สัญญาณ Wi-Fi/5G ครอบคลุมทุกพื้นที่

  6. มีพื้นที่ Charging Station พร้อมระบบความปลอดภัย

  7. ห้องเก็บหุ่นยนต์พร้อมน้ำดี–น้ำทิ้ง

  8. ติดตั้ง Landmark หรือ Visual Markers

  9. BMS/FMS เชื่อมต่อกับระบบหุ่นยนต์ได้

  10. ระบบ Cybersecurity ป้องกันการแฮ็ก


9. มองอนาคต: Robotics + AI = Building as a Service


ในอนาคตอาคารที่ Robotics-Ready จะไม่ใช่แค่ “Smart Building” แต่จะกลายเป็น “Building as a Service” ที่สามารถจัดการงานซ้ำ ๆ ได้อัตโนมัติทั้งหมด โดยมนุษย์มุ่งเน้นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และการบริหารเชิงกลยุทธ์แทน

  • AI + Robotics จะทำให้อาคารปรับตัวเองตามสภาพ เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดออกมาทำงานทันทีเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นสูง

  • PropTech Integration จะทำให้ข้อมูลการทำงานของหุ่นยนต์ผูกเข้ากับ Dashboard ของผู้จัดการอาคารแบบ Real-time

  • หุ่นยนต์รุ่นใหม่ จะทำงานร่วมกันเป็น Fleet แทนที่จะทำงานแยกเดี่ยว


สรุป: Robotics-Ready = Future-Proof


การออกแบบอาคารให้ Robotics-Ready ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือ กลยุทธ์การลงทุนระยะยาว อาคารที่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์จะได้เปรียบทั้งด้านต้นทุน ความปลอดภัย ภาพลักษณ์ และความสามารถในการแข่งขัน


กล่าวได้ว่า อนาคตของ Property Management จะไม่ได้วัดกันที่อาคาร “ฉลาด” แค่ไหน แต่จะวัดกันที่ อาคารของคุณพร้อมให้หุ่นยนต์ทำงานแค่ไหน

Chakrapan Pawangkarat

  • TikTok
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page