top of page

ข้อแนะนำการวางแผนลดคาร์บอนเชิงกลยุทธ์: แนวทางสำหรับผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์สู่การบริหารอาคารแห่งอนาคต

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Member ASHRAE

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

12 July 2025

ree

ในยุคที่โลกมุ่งหน้าสู่การลดคาร์บอนอย่างจริงจัง "อาคาร" กลายเป็นตัวแสดงสำคัญ เพราะปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) คิดเป็นเกือบ 40% ของการปล่อยทั้งหมดทั่วโลก สำหรับผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ นี่ไม่ใช่แค่ความท้าทาย แต่คือโอกาสในการเปลี่ยนแปลงอาคารที่มีอยู่ให้พร้อมรับอนาคต ทั้งในด้านความยั่งยืน มูลค่าทางเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์องค์กร


เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ASHRAE ร่วมกับ USGBC และ NYSERDA ได้จัดทำ Strategic Decarbonization Planning Guide หรือ “ข้อแนะนำการวางแผนลดคาร์บอนเชิงกลยุทธ์” สำหรับอาคารที่ใช้งานอยู่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ ผู้จัดการอาคารและทีมงาน สามารถวางแผนและลงมือปฏิบัติได้อย่างมีระบบและวัดผลได้จริง


🌍 Decarbonization Strategy คืออะไร?

Decarbonization Strategy คือการวางแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอาคารอย่างเป็นขั้นตอน มีระยะเวลาและงบประมาณชัดเจน ครอบคลุมทั้งการ:

  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

  • เปลี่ยนระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงสู่การใช้ไฟฟ้า (Electrification)

  • ใช้พลังงานหมุนเวียน

  • ใช้สารทำความเย็นที่มี GWP ต่ำ

  • ทำอาคารให้สามารถสื่อสารและตอบสนองกับระบบไฟฟ้าได้ (Grid-Interactive)

  • ลดคาร์บอนฝังตัวจากวัสดุและอุปกรณ์

  • ใช้มาตรการชดเชยคาร์บอนกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้


หัวใจสำคัญคือ การผนวกแนวทางลดคาร์บอนเข้าไปในแผนบำรุงรักษาและแผนการลงทุนของอาคาร ไม่แยกส่วน ไม่เพิ่มภาระ แต่สร้างคุณค่าระยะยาว


🔑 ทำไมผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ควรให้ความสำคัญ?

  • ลดต้นทุนการดำเนินงาน (ค่าไฟ ค่าซ่อม)

  • เพิ่มมูลค่าอาคาร และดึงดูดผู้เช่า

  • เตรียมความพร้อมต่อกฎหมายและนโยบายด้านพลังงานที่เข้มงวดขึ้น

  • รองรับเป้าหมาย ESG และความคาดหวังของนักลงทุน

  • ปรับอาคารให้พร้อมแข่งขันในตลาดยุคใหม่


🛠️ กรอบวางแผนลดคาร์บอน 6 ขั้นตอน

ASHRAE แนะนำให้วางแผนตามขั้นตอนต่อไปนี้:


1. ตั้งเป้าหมายอย่างมีกลยุทธ์

เริ่มต้นด้วยการกำหนด “เป้าหมายคาร์บอน” ที่วัดผลได้ เช่น

  • ลดคาร์บอน 30% ภายใน 5 ปี

  • ไปสู่ Net Zero ในปี 2040


เคล็ดลับ:

  • ประเมินการปล่อยคาร์บอน Scope 1 (ระบบในอาคาร) และ Scope 2 (พลังงานที่ซื้อจากภายนอก)

  • ใช้ทั้งเป้าหมายแบบ “ปริมาณรวม” และ “ความเข้ม (Density)” เช่น กิโลกรัม CO₂e ต่อ ตร.ม./ปี


2. วิเคราะห์สถานะพลังงานของอาคาร

ทำ Energy Audit (ระดับ ASHRAE Level II) และใช้ Guideline 14 เพื่อสร้าง baseline ของพลังงานและคาร์บอน


สิ่งที่ควรวิเคราะห์:

  • ประสิทธิภาพระบบปรับอากาศ

  • ระบบไฟแสงสว่างและการควบคุม

  • ฉนวนอาคารและกระจก

  • การตั้งเวลาการทำงานของอุปกรณ์

  • สารทำความเย็นและโอกาสการรั่ว


เครื่องมือ:

  • โปรแกรมจำลองพลังงาน (eQuest, EnergyPlus, IESVE)

  • ข้อมูลค่าไฟย้อนหลัง (แบบรายชั่วโมงยิ่งดี)

  • รายงานตรวจสอบสภาพอาคาร (Facility Condition Assessment)


3. ค้นหาแนวทางลดคาร์บอน

เมื่อรู้จุดอ่อนของอาคารแล้ว ให้วางแผนการปรับปรุง เช่น:

  • เปลี่ยนระบบทำน้ำร้อนเป็น Heat Pump

  • อัปเกรดไฟส่องสว่างเป็น LED พร้อมระบบควบคุมอัตโนมัติ

  • ปรับปรุงฉนวนหลังคา ผนัง และกระจก

  • ติดตั้งโซลาร์รูฟ หรือแบตเตอรี่สำรอง

  • เปลี่ยนสารทำความเย็นเป็นชนิด GWP ต่ำ (เช่น R-1234yf หรือ CO₂)


วางแผนเป็นเฟสๆ ตามลำดับความง่ายและงบประมาณ


4. เชื่อมโยงกับแผนงบประมาณ CAPEX

หัวใจของแนวทางนี้คือ “ไม่ทำแยก” แต่รวมไว้ในแผนบำรุงรักษาและการลงทุนตามรอบเวลา


ตัวอย่าง: หากเครื่องปรับอากาศจะหมดอายุใช้งานในอีก 2 ปี ให้ใช้โอกาสนี้เปลี่ยนเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงและปล่อยคาร์บอนต่ำ พร้อมติดระบบควบคุมและโซลาร์ไปด้วย


5. ดำเนินงาน ติดตามผล และปรับปรุง

กำหนด KPI เพื่อติดตามความก้าวหน้า เช่น:

  • kWh/ตร.ม./ปี

  • CO₂e ต่อ ตร.ม.

  • ค่าไฟต่อปี

  • จำนวนชั่วโมงที่ระบบทำงานเกินกำหนด


KPI แนะนำ:

ตัวชี้วัด

ความสำคัญ

EUI (Energy Use Intensity)

ใช้เทียบประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

Carbon Intensity (kg CO₂e/m²)

วัดผลการลดคาร์บอน

Peak Load Reduction (%)

วัดผลตอบสนองต่อระบบไฟฟ้า


6. ทบทวนแผนทุกปีและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

แผนลดคาร์บอนไม่ใช่สิ่งตายตัว ต้องอัปเดตทุกปีตาม:

  • ข้อมูลที่ได้จากการดำเนินงานจริง

  • เทคโนโลยีใหม่หรือแรงจูงใจจากรัฐ

  • นโยบายหรือข้อกำหนดใหม่ (เช่น มาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานใหม่ๆ)


📈 ประโยชน์เชิงธุรกิจ

ด้าน

ประโยชน์ที่ได้รับ

ค่าใช้จ่าย

ลดต้นทุนพลังงานและค่าบำรุงรักษาระยะยาว

มูลค่าอาคาร

อาคารเขียว = ผู้เช่าสนใจมากขึ้น

กฎหมาย

เตรียมพร้อมต่อข้อกำหนดด้านพลังงานและ ESG

ความเสี่ยง

ลดความเสี่ยงจากคาร์บอนราคา, วิกฤตพลังงาน, และค่าประกัน


🚀 เริ่มอย่างไร?

  1. ดาวน์โหลดคู่มือ ASHRAE คลิกที่นี่

  2. ตั้งทีมภายใน: วิศวกร ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายการเงิน

  3. ทำ Energy Audit + จำลองพลังงาน

  4. วางแผนลดคาร์บอน 3–5 ปี

  5. ดำเนินโครงการนำร่อง (เช่น ปรับปรุงปรับอากาศ + ติด Solar + ระบบควบคุม)


✳️ บทสรุป

คู่มือ Strategic Decarbonization Planning Guide ของ ASHRAE คือแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่ผู้จัดการอาคารทุกคนควรใช้ในการ:

  • วางแผนลดคาร์บอนอย่างเป็นระบบ

  • ควบรวมเข้ากับงบประมาณและแผนงานประจำ

  • วัดผลจริง ปรับปรุงได้ และต่อยอดได้

  • ขับเคลื่อนอาคารให้พร้อมแข่งขันในยุค Net-Zero


เพราะความยั่งยืนในวันนี้ คือความมั่นคงของอาคารในวันหน้า


Chakrapan Pawangkarat

  • TikTok
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page