top of page

จัดซื้อ ตรวจรับ จ่ายเงิน: ระบบหลังบ้านที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพงานบริหารอาคารสู่ยุค AI

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

30 October 2025


ree

“ความโปร่งใสไม่ได้เกิดจากการตรวจสอบ แต่เกิดจากระบบที่ออกแบบให้ตรวจสอบได้ตั้งแต่ต้นทาง”

🏢 บทนำ: กระบวนการที่ซ่อนอยู่หลังความเรียบร้อยของอาคาร


ในสายตาผู้เช่าหรือผู้ใช้บริการ อาคารที่สะอาด ปลอดภัย และมีระบบทุกอย่างทำงานได้ราบรื่น อาจดูเหมือนเกิดจาก “ทีมงานที่เก่ง”แต่ในความเป็นจริง เบื้องหลังนั้นคือ “ระบบจัดซื้อ-จัดจ้าง-ตรวจรับ-จ่ายเงิน” ที่มีประสิทธิภาพเพราะถ้าวงจรนี้สะดุดแม้เพียงจุดเดียววัสดุจะมาช้า งานจะค้าง ผู้รับจ้างจะไม่ต่อสัญญา และค่าใช้จ่ายจะบานปลาย


ในยุคที่อาคารต้องแข่งขันทั้งด้านต้นทุนและมาตรฐาน ESGฝ่ายบริหารอาคารจึงต้องมองระบบเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ “งานธุรการ”แต่เป็น “กลไกเชิงกลยุทธ์” ที่เชื่อมโยงทั้งคุณภาพบริการ ความโปร่งใส และความยั่งยืนขององค์กร


⚙️ 1. กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง: จากใบขอซื้อถึงการอนุมัติอัตโนมัติ


ระบบจัดซื้อในงานบริหารอาคารมีจุดเริ่มต้นที่เรียบง่าย — เมื่อช่างคนหนึ่งแจ้งว่าต้องเปลี่ยนมอเตอร์ หรือหัวหน้างานรักษาความสะอาดแจ้งว่าต้องสั่งน้ำยาชุดใหม่แต่กระบวนการหลังจากนั้นกลับเป็นจุดที่ทำให้หลายอาคาร “ช้า – ซ้ำซ้อน – เสี่ยงผิดพลาด”


วงจรจัดซื้อจัดจ้างแบบดั้งเดิม

  1. ผู้ใช้งานแจ้งความต้องการ (PR)

  2. เจ้าหน้าที่จัดซื้อรวบรวมใบเสนอราคา

  3. ผู้จัดการอนุมัติ

  4. ออกใบสั่งซื้อ (PO)

  5. รอส่งของ / รับบริการ


💡 แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพ

  • ใช้ระบบ Workflow อัตโนมัติ (e-Procurement Workflow): ออกแบบให้ PR–PO–Payment อยู่ในเส้นทางเดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ตัวอย่างเช่น Microsoft Power Automate หรือ CMMS ที่ผูกกับระบบบัญชี→ ลดเอกสาร ลดเวลารออนุมัติจาก 7 วันเหลือไม่ถึง 2 วัน

  • ใช้ระบบ Approval Hierarchy อัจฉริยะ: AI สามารถตรวจจับความผิดปกติ เช่น ราคาเกินมาตรฐาน หรือ Vendor ที่มีความเสี่ยงซ้ำและแนะนำเส้นทางอนุมัติที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

  • สร้างฐานข้อมูลผู้รับจ้าง (Vendor Database): เก็บข้อมูลผลงานย้อนหลัง, SLA, ความพึงพอใจของอาคารระบบ AI สามารถจัดอันดับ “Vendor ที่เหมาะสมที่สุด” สำหรับแต่ละประเภทงาน


🧾 2. การตรวจรับ: จากลายเซ็นบนกระดาษสู่หลักฐานดิจิทัล


การตรวจรับคือขั้นตอนที่เปลี่ยน “ข้อตกลง” ให้เป็น “ผลงานจริง”หากตรวจรับไม่ละเอียด งานอาจมีข้อบกพร่องที่กลายเป็นปัญหาซ้ำซาก แต่ถ้าตรวจรับช้าเกินไป ผู้รับจ้างจะไม่ได้รับเงินตรงเวลา เกิดความไม่พึงพอใจทั้งสองฝ่าย


💡 แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพ

  • Digital Acceptance Form: ใช้แท็บเล็ตหรือมือถือถ่ายภาพ/วิดีโอแนบรายงานตรวจรับ พร้อมลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ระบบจะจัดเก็บข้อมูลเข้าคลาวด์อัตโนมัติ→ ลดการใช้กระดาษและป้องกันเอกสารสูญหาย

  • AI Inspection Assistant: ใช้ Computer Vision ตรวจจับความผิดปกติ เช่น งานทาสีไม่เรียบ รอยรั่วซึม หรือคราบน้ำมัน→ เพิ่มความแม่นยำและลดการพึ่งพาประสบการณ์ส่วนบุคคล

  • Predictive Acceptance: หากผูกกับระบบ CMMS หรือ Sensor ข้อมูลการทำงานของอุปกรณ์ (เช่น ชั่วโมงเดินเครื่อง) AI สามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อใกล้ถึงรอบตรวจรับ หรือรอบซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (PM)


💳 3. การจ่ายเงิน: จากกระดาษวางบิลสู่ระบบจ่ายอัตโนมัติ


เมื่อการตรวจรับผ่านแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจ่ายเงินให้ผู้รับจ้าง จุดนี้เป็นคอขวดที่พบบ่อยในอาคาร — เอกสารไม่ครบ ข้อมูลซ้ำ หรือรอผู้อนุมัติหลายขั้นผลลัพธ์คือ “ผู้รับจ้างรอจ่ายช้า” และ “ฝ่ายบัญชีเหนื่อยกับการติดตาม”


💡 แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพ

  • Automated Invoice Matching: ระบบ AI ตรวจสอบว่าใบแจ้งหนี้ตรงกับ PO และใบตรวจรับหรือไม่→ ลดภาระตรวจสอบเอกสารซ้ำ

  • Smart Payment Schedule: ใช้ระบบ ERP หรือบัญชีอัจฉริยะกำหนดรอบจ่ายเงินอัตโนมัติพร้อมส่งแจ้งเตือนผู้รับจ้างผ่านอีเมลหรือแอป→ ช่วยรักษาความสัมพันธ์กับคู่ค้าและภาพลักษณ์องค์กร

  • Data Analytics เพื่อวางแผนกระแสเงินสด (Cashflow Forecast): เมื่อข้อมูลการจัดซื้อและตรวจรับอยู่ในระบบเดียวกันAI สามารถคาดการณ์ภาระจ่ายเงินในอีก 3 เดือนข้างหน้าทำให้ผู้บริหารวางแผนงบประมาณได้แม่นยำขึ้น


🤖 4. ยุคใหม่ของ “AI-Driven Procurement Ecosystem”


การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อ-ตรวจรับ-จ่ายเงิน ไม่ใช่แค่การลดภาระงาน แต่คือการสร้าง “ระบบอัจฉริยะที่คิดได้เองบางส่วน”ตัวอย่างที่เริ่มใช้ในอาคารสมัยใหม่ ได้แก่:

เทคโนโลยี

การใช้งานในงานบริหารอาคาร

AI Chatbot / Copilot

ช่วยเจ้าหน้าที่จัดทำ PR, ตรวจสอบงบประมาณ, แนะนำ Vendor

Predictive Analytics

วิเคราะห์แนวโน้มการซ่อมบำรุงและแจ้งเตือนความต้องการจัดซื้อก่อนเกิดเหตุ

Blockchain Ledger

บันทึกธุรกรรมการจัดซื้อทุกขั้นตอน โปร่งใส ตรวจสอบย้อนหลังได้ 100%

IoT Sensor Integration

ระบบตรวจจับอัตโนมัติ เช่น น้ำยาเคมีลดลง → สร้างใบ PR อัตโนมัติ

RPA (Robotic Process Automation)

ซอฟต์แวร์ช่วยตรวจเอกสารและบันทึกบัญชีอัตโนมัติ


ผลลัพธ์คือ ระบบบริหารอาคารที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Operation) ทำให้ทุกฝ่าย — เจ้าของอาคาร ผู้จัดการบัญชี ทีมเทคนิค — ใช้ข้อมูลเดียวกันในการตัดสินใจ


🌍 5. จากระบบหลังบ้านสู่ความยั่งยืน (ESG Integration)


เมื่อระบบจัดซื้อ-ตรวจรับ-จ่ายเงินกลายเป็นระบบดิจิทัลองค์กรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาเชื่อมกับ ESG Reporting ได้โดยตรง เช่น

  • สัดส่วน Vendor ที่มีมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

  • การใช้วัสดุรีไซเคิลในการซ่อมบำรุง

  • การลดระยะเวลาการจ่ายเงินแก่ผู้รับจ้างรายย่อย (Social-Sustainability Indicator)


สิ่งเหล่านี้ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของอาคารจาก “บริหารได้ดี” สู่ “บริหารอย่างยั่งยืน”


🧭 บทสรุป: เมื่อระบบหลังบ้านกลายเป็นสมองขององค์กร


งานจัดซื้อ ตรวจรับ และจ่ายเงิน อาจเคยถูกมองว่าเป็นเพียง “งานสนับสนุน” แต่ในโลกยุคข้อมูลและ AI — มันคือ เส้นประสาทหลักของการบริหารอาคาร ที่เชื่อมโยงข้อมูล การตัดสินใจ และความโปร่งใสเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ


อาคารที่มีระบบหลังบ้านแข็งแรง คืออาคารที่พร้อมขับเคลื่อนไปสู่อนาคตอาคารที่มีข้อมูลครบทุกจุด คืออาคารที่ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจทุกวัน

Chakrapan Pawangkarat

  • TikTok
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page