top of page

ลิฟต์ค้าง! คู่มือปฏิบัติสำหรับช่างประจำอาคารและผู้ติดอยู่ในลิฟต์



จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

กรรมการและเลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

27 March 2025


ree

ลิฟต์ค้างเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่หากเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือ การตั้งสติและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ทั้งสำหรับช่างประจำอาคารที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือ และผู้ที่ติดอยู่ในลิฟต์ที่ต้องรอความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย


🔧 หน้าที่ของช่างประจำอาคารเมื่อได้รับแจ้งว่าลิฟต์ค้าง

1️⃣ รับแจ้งเหตุและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น

  • ลิฟต์ตัวไหน?

  • ค้างอยู่ที่ชั้นไหน?

  • มีผู้ติดอยู่กี่คน?

  • มีอาการผิดปกติอะไรบ้าง?

2️⃣ ติดต่อบริษัทซ่อมบำรุงลิฟต์ทันทีหากลิฟต์ไม่สามารถกลับมาใช้งานได้เอง ต้องแจ้งบริษัทที่ดูแลลิฟต์ให้ส่งช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ

3️⃣ สื่อสารกับผู้ติดอยู่ในลิฟต์

  • ใช้ระบบอินเตอร์คอม หรือพูดผ่านประตูเพื่อให้ผู้ติดอยู่รู้ว่ามีเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือ

  • ให้กำลังใจ และแนะนำให้ผู้ติดอยู่สงบสติอารมณ์

4️⃣ ตรวจสอบระบบไฟและแผงควบคุม

  • ตรวจสอบเบรกเกอร์ไฟของลิฟต์ หากพบว่าไฟดับ อาจลองรีสตาร์ทระบบตามคู่มือ

5️⃣ ใช้กุญแจเปิดประตู (เฉพาะกรณีปลอดภัยเท่านั้น)

  • ถ้าลิฟต์หยุดตรงกับชั้นพอดี สามารถใช้กุญแจพิเศษเปิดประตูและช่วยเหลือผู้ติดอยู่ได้

  • ห้าม งัดแงะประตูด้วยอุปกรณ์อื่น เพราะอาจทำให้ลิฟต์ขยับโดยไม่คาดคิด

6️⃣ หากไม่สามารถเปิดประตูได้ ต้องรอช่างเฉพาะทาง

  • ห้ามพยายามดึงคนออกจากลิฟต์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจทำให้เกิดอันตราย

7️⃣ เมื่อช่วยเหลือสำเร็จ ต้องบันทึกเหตุการณ์และตรวจสอบระบบลิฟต์

  • แจ้งบริษัทลิฟต์ให้เข้ามาตรวจสอบเชิงลึก

  • ปิดลิฟต์เพื่อป้องกันเหตุซ้ำ และติดป้ายแจ้งเตือนหากจำเป็น


⏳ ระยะเวลาการช่วยเหลือที่ถือว่าปกติ

🔹 10-30 นาที 👉 ปัญหาเบื้องต้น เช่น ไฟฟ้าขัดข้องหรือระบบเซ็นเซอร์ทำงานผิดพลาด

🔹 30-60 นาที 👉 ต้องใช้กุญแจเปิดประตูหรือรอทีมช่างเฉพาะทาง

🔹 มากกว่า 60 นาที 👉 กรณีระบบมอเตอร์หรือสายพานมีปัญหาที่ต้องใช้การกู้ภัยพิเศษ


ปัจจัยที่ส่งผลต่อเวลาในการช่วยเหลือ

✅ ประเภทของลิฟต์ (ลิฟต์เก่าหรือใหม่ มีระบบกู้ภัยอัตโนมัติหรือไม่)

✅ ความพร้อมของช่างอาคารและทีมบำรุงรักษา

✅ การจราจร หากต้องรอทีมช่างจากภายนอก


👥 ผู้ที่ติดอยู่ในลิฟต์ควรทำอย่างไรระหว่างรอ?

ตั้งสติและสงบใจหายใจเข้าออกลึก ๆ อย่าตกใจ เพราะ ลิฟต์ทุกตัวถูกออกแบบให้มีระบบความปลอดภัย

ใช้ปุ่มฉุกเฉินหรือโทรศัพท์มือถือขอความช่วยเหลือ

  • กดปุ่ม “Alarm” หรือ “Help” ภายในลิฟต์

  • โทรศัพท์แจ้งฝ่ายอาคารหากมีสัญญาณมือถือ

หลีกเลี่ยงการกดปุ่มลิฟต์ซ้ำ ๆ

  • กดปุ่มชั้นที่ใกล้ที่สุดเพียงครั้งเดียว

  • การกดปุ่มซ้ำ ๆ อาจทำให้ระบบลิฟต์ขัดข้องยิ่งขึ้น

ผ่อนคลายร่างกายและเตรียมตัวรอ

  • หากอากาศร้อน ให้คลายเนกไทหรือเสื้อผ้าให้สบายขึ้น

  • ถ้ามีคนอื่นติดอยู่ด้วย ให้ช่วยกันดูแลกันและกัน


🚨 ข้อเท็จจริงที่ช่วยให้คุณมั่นใจว่าปลอดภัย

🔹 ไม่มีทางขาดอากาศหายใจ

  • ลิฟต์ทุกตัวมี พัดลมระบายอากาศ ที่ทำงานตลอดเวลา แม้ไฟฟ้าดับ พัดลมก็ยังคงหมุนได้จากระบบสำรอง

🔹 ลิฟต์ไม่ร่วงหล่นแน่นอน!

  • ลิฟต์ไม่ได้ใช้เชือกเส้นเดียวในการรับน้ำหนัก แต่มี สายเคเบิลหลายเส้น รองรับ

  • หากระบบหลักมีปัญหา ลิฟต์ยังมี ระบบเบรคนิรภัย (Safety Brake System) ที่ทำงานอัตโนมัติและล็อกลิฟต์ให้อยู่กับที่


🚨 สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด

ห้ามพยายามงัดหรือเปิดประตูเอง – อันตรายมาก อาจทำให้ลิฟต์ขยับโดยไม่คาดคิด

ห้ามปีนออกผ่านช่องระบายอากาศ – เสี่ยงตกลงมาได้รับบาดเจ็บ

ห้ามใช้ไฟแช็กหรือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟ – อาจเกิดอันตรายจากควันหรือไฟไหม้


🔎 สรุป

หากลิฟต์ค้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตั้งสติ และทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ

  • ช่างประจำอาคาร ต้องสื่อสารกับผู้ติดอยู่ แจ้งบริษัทลิฟต์ และตรวจสอบระบบอย่างปลอดภัย

  • ผู้ติดอยู่ในลิฟต์ ควรสงบสติอารมณ์ ใช้ปุ่มฉุกเฉิน และรอการช่วยเหลือโดยไม่ทำอะไรเสี่ยงอันตราย


💡 ลิฟต์ทุกตัวมีระบบความปลอดภัยที่ออกแบบมาอย่างดี จึง ไม่มีทางขาดอากาศหายใจ และ ไม่มีทางร่วงหล่นอย่างอิสระ ขอให้มั่นใจว่า หากทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ทุกคนจะปลอดภัยแน่นอน!



Acknowledgement:

"This article was generated with the assistance of ChatGPT, an AI language model, and subsequently reviewed and edited by the author."

Chakrapan Pawangkarat

  • TikTok
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page