ทำยังไงให้เป็นอาคาร Net Zero Carbon
- Chakrapan Pawangkarat
- Oct 26, 2024
- 1 min read
อาคาร Net Zero Carbon หรือ อาคารที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยที่นับตั้งแต่ช่วงก่อสร้างอาคารที่เรียกว่าเป็น Embodied Carbon และ ช่วงใช้งานที่เรียกว่า Operational Carbon
ที่เรียก Carbon Emission แต่ไม่ได้นับเฉพาะ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbondioxide (CO2) เท่านั้นแต่นับรวมก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) ทุกตัว โดยที่แปลงหน่วยให้เป็น คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าแล้วนำมารวมกัน อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วก๊าซเรือนกระจกที่อาคารปล่อยก็คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ดี
การปล่อยคาร์บอนในอาคารช่วงใช้งาน เกือบทั้งหมดเกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเมื่อมีการใช้ไฟที่อาคารก็เกิดการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้า
การผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยใช้แหล่งพลังงานต้นทางมาจากหลายอย่าง เช่น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน พลังน้ำจากเขื่อน พลังแสงแดด พลังลม โดยเมื่อเฉลี่ยรวมทั้งหมดแล้ว ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อหน่วยไฟฟ้า (กิโลวัตต์-ชั่วโมง)
ตัวอย่าง อาคารหลังหนึ่งใช้ไฟฟ้าประมาณ 180 หน่วยต่อตารางเมตรต่อปี (ตารางเมตรพื้นที่ใช้สอยไม่รวมพื้นที่จอดรถ) อาคารสูง 30 ชั้นหลังหนึ่งมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 50,000 ตารางเมตร ปล่อยคาร์บอน = 50,000 ตารางเมตร x180 หน่วยไฟฟ้า × 0.5 กิโลกรัมคาร์บอนต่อหน่วยไฟฟ้า = 4,500,000 กิโลกรัมคาร์บอนต่อปี หรือ 4,500 ตันคาร์บอนต่อปี
ถ้าต้องการให้เป็นอาคาร Net Zero Carbon ก็ต้องลดการใช้พลังงานไฟฟ้า(ที่ผลิตจากโรงไฟฟ้า)ให้เป็นศูนย์หรือเข้าใกล้ศูนย์ แล้วออฟเซ็ต เช่น การซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยในส่วนที่ลดให้เป็นศูนย์ไม่ได้
วิธีการลดการใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าก็คือ การลดการใช้พลังงานลงให้มากที่สุด ร่วมกับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตเองแบบไม่ปล่อยคาร์บอนเช่น พลังแสงแดด พลังลม ซึ่งอาจผลิตไฟฟ้าเองที่อาคาร หรือ อาจทำสัญญาซื้อไฟฟ้ามากจากโรงไฟฟ้าแบบพลังแสงอาทิตย์มาจากที่อื่นก็ได้
จะเห็นได้ว่าการทำอาคารให้ Net Zero Carbon นั้นเป็นไปได้ โดยเฉพาะอาคารที่ไม่ใหญ่มากนักและมีที่ติดแผงโซล่าเซล์เยอะๆ จะทำได้ไม่ยาก
แต่ถ้าเป็นอาคารใหญ่และไม่ค่อยมีพื้นที่หลังคาหรือที่ดินให้ติดโซล่าเซลล์ ก็จะยากหน่อย ต้องมีการลงทุนเยอะ แต่ก็พอมีแนวทางโดยวางแผนระยะยาว เริ่มทำจากของง่ายลงทุนต่ำก่อน แล้วค่อยไล่ไปเรื่อยๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายก่อนปีที่แต่ละองค์กรกำหนดว่าจะ Net Zero Carbon กันปีไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นปี 2050


