10 เรื่องสำคัญที่เจ้าของห้องชุดต้องรู้จาก พ.ร.บ. อาคารชุด
- Chakrapan Pawangkarat
- Aug 19
- 1 min read
Updated: Aug 29
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
19 August 2025

การเป็นเจ้าของห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมในประเทศไทย ไม่ได้หมายถึงเพียงการครอบครองพื้นที่ส่วนบุคคลในอาคาร แต่ยังหมายถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในสังคมแนวตั้ง ที่มีทั้งกฎเกณฑ์ สิทธิ และภาระหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด พระราชบัญญัติอาคารชุด (พ.ร.บ. อาคารชุด) จึงเป็นกฎหมายกลางที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม
ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้ไม่เพียงช่วยให้เจ้าของห้องชุดใช้สิทธิได้ครบถ้วน แต่ยังป้องกันข้อพิพาท และทำให้การอยู่อาศัยร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ บทความนี้ได้สรุป 10 เรื่องสำคัญจาก พ.ร.บ. อาคารชุด ที่เจ้าของห้องชุดทุกคนควรรู้ โดยเน้นการอธิบายเชิงลึกและข้อควรระวังในแต่ละประเด็น
1. กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
สิทธิของเจ้าของห้องชุดแบ่งออกเป็นสองลักษณะหลัก ได้แก่
ทรัพย์ส่วนบุคคล: คือห้องชุดที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะบุคคล รวมถึงสิ่งที่ติดอยู่กับห้องซึ่งไม่ใช่โครงสร้างหลัก เช่น พื้น ผนังภายใน สุขภัณฑ์ หรือระบบไฟฟ้าและประปาภายในห้อง เจ้าของมีสิทธิใช้สอยหรือดัดแปลงภายในได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย
ทรัพย์ส่วนกลาง: คือส่วนต่าง ๆ ของอาคารและที่ดินที่ไม่ได้เป็นของห้องใดห้องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น โครงสร้างหลัก เสา คาน หลังคา ทางเดิน ลิฟต์ สวน ฟิตเนส และระบบของอาคาร ทั้งหมดถือเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม
📌 ข้อควรระวัง: การกระทำใด ๆ ที่มีผลต่อทรัพย์ส่วนกลาง เช่น การติดตั้งสิ่งก่อสร้างเพิ่มหรือดัดแปลงที่กระทบต่อโครงสร้าง ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วมก่อน หากฝ่าฝืนอาจถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นและมีผลทางกฎหมาย
2. ค่าส่วนกลาง
ค่าส่วนกลางเป็นภาระผูกพันโดยตรงของเจ้าของห้องชุดทุกคน ซึ่งคำนวณตามอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนกลาง โดยเงินส่วนนี้ใช้เพื่อดูแลรักษาและบริหารจัดการ เช่น ค่าจ้างบุคลากร ค่าไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลาง ค่าดูแลรักษาสวนและระบบต่าง ๆ ของอาคาร
📌 ข้อควรระวัง:
การค้างชำระเกิน 6 เดือน นิติบุคคลมีสิทธิระงับการใช้บริการบางอย่าง รวมถึงสิทธิ์ในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจะถูกระงับจนกว่าจะชำระหนี้ครบถ้วน
การชำระไม่ตรงเวลาอาจมีเบี้ยปรับเพิ่มเติม
เจ้าของห้องชุดมีหน้าที่ตรวจสอบอัตราค่าส่วนกลางและการใช้งบประมาณในแต่ละปี เพื่อให้มั่นใจว่าเงินถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส
3. นิติบุคคลอาคารชุด
เมื่อมีการจดทะเบียนอาคารชุด จะต้องมีการจัดตั้ง นิติบุคคลอาคารชุด ขึ้น เพื่อทำหน้าที่จัดการ ดูแล และบำรุงรักษาทรัพย์ส่วนกลาง
ผู้จัดการนิติบุคคล: เป็นผู้บริหารงานประจำ ทำหน้าที่ดูแลทรัพย์ส่วนกลางตามที่กฎหมายและข้อบังคับกำหนด
คณะกรรมการนิติบุคคล: มาจากการเลือกตั้งของเจ้าของร่วม ทำหน้าที่ควบคุมและกำกับการทำงานของผู้จัดการนิติบุคคล
📌 ข้อควรระวัง:
เจ้าของห้องชุดมีสิทธิเลือกตั้งและถอดถอนคณะกรรมการหรือผู้จัดการได้ตามมติที่ประชุม
หากไม่มีการกำกับดูแล อาจเกิดการใช้งบประมาณไม่โปร่งใส
4. การประชุมใหญ่เจ้าของร่วม
การประชุมใหญ่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของห้องชุด เพื่อกำหนดทิศทางการบริหารและตรวจสอบการทำงานของนิติบุคคล โดยต้องจัดประชุมใหญ่สามัญอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
สิทธิออกเสียงขึ้นอยู่กับอัตราส่วนกรรมสิทธิ์
ที่ประชุมใหญ่สามารถพิจารณาเรื่องสำคัญ เช่น การอนุมัติงบประมาณ การเลือกตั้งคณะกรรมการ การแก้ไขข้อบังคับ
📌 ข้อควรระวัง: หากเจ้าของห้องชุดไม่เข้าประชุม อาจเสียสิทธิในการมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องสำคัญของอาคาร
5. มติที่ประชุม
การประชุมใหญ่เจ้าของร่วมจะใช้ “มติ” เป็นกลไกการตัดสินใจ ซึ่งกฎหมายกำหนดเกณฑ์ไว้หลายระดับตามความสำคัญของเรื่อง ดังนี้
มติด้วยเสียงข้างมากของผู้เข้าประชุม (มาตรา 44) ใช้กับเรื่องทั่วไป เช่น การอนุมัติงบประมาณประจำปี การแต่งตั้งคณะกรรมการนิติบุคคล และเรื่องการบริหารจัดการประจำ
มติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนคะแนนเสียงของเจ้าของร่วมทั้งหมด (มาตรา 48) ใช้กับเรื่องสำคัญ เช่น
ซื้อหรือรับโอนอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นทรัพย์ส่วนกลาง
จำหน่ายทรัพย์ส่วนกลางที่เป็นอสังหาริมทรัพย์
อนุญาตให้เจ้าของร่วมห้องใดก่อสร้าง ตกแต่ง ปรับปรุง หรือดัดแปลงห้องของตนที่มีผลต่อทรัพย์ส่วนกลางหรือรูปลักษณ์อาคาร
แก้ไขข้อบังคับที่เกี่ยวกับการใช้หรือการจัดการทรัพย์ส่วนกลาง
แก้ไขสัดส่วนค่าใช้จ่ายตามข้อบังคับ
ก่อสร้างหรือปรับปรุงทรัพย์ส่วนกลาง
การจัดหาประโยชน์ในทรัพย์ส่วนกลาง
หากการประชุมครั้งแรกไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้ครบตามที่กำหนด กฎหมายเปิดทางให้เรียกประชุมใหม่ภายใน 15 วัน และใช้เกณฑ์ ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของคะแนนเสียงเจ้าของร่วมทั้งหมด
มติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนคะแนนเสียงของเจ้าของร่วมทั้งหมด (มาตรา 49) ใช้กับการแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้จัดการนิติบุคคล และการกำหนดกิจการที่ผู้จัดการสามารถมอบหมายให้ผู้อื่นทำแทนได้
📌 ข้อควรระวัง: เจ้าของร่วมต้องทราบเกณฑ์ของแต่ละประเภทมติ เพื่อใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างถูกต้องและตรงตามขั้นตอน
6. ข้อบังคับของอาคารชุด
ข้อบังคับถือเป็น “ธรรมนูญการอยู่อาศัยร่วมกัน” ซึ่งจดทะเบียนไว้กับกรมที่ดิน และมีผลบังคับใช้กับเจ้าของร่วมทุกคน
กำหนดวิธีใช้ทรัพย์ส่วนบุคคลและส่วนกลาง
กำหนดอัตราส่วนค่าส่วนกลาง
ระบุขั้นตอนการจัดประชุมและการบริหารงาน
กำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการและผู้จัดการ
📌 ข้อควรระวัง: เจ้าของห้องชุดต้องศึกษาข้อบังคับให้ละเอียด เพราะการละเมิดแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจถูกบังคับใช้ตามกฎหมายและมีโทษปรับ
7. การดัดแปลงห้องชุด
เจ้าของห้องชุดมีสิทธิ์ตกแต่งภายใน แต่ต้องไม่กระทบต่อโครงสร้างหลัก ระบบวิศวกรรม หรือความมั่นคงของอาคาร หากมีการดัดแปลงที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ส่วนกลาง เช่น การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม
📌 ข้อควรระวัง: การดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกสั่งให้แก้ไขกลับสู่สภาพเดิม และอาจมีโทษปรับทางกฎหมาย
8. การปล่อยเช่า
เจ้าของห้องชุดสามารถปล่อยเช่าได้ แต่ยังคงมีภาระหน้าที่ในฐานะเจ้าของร่วม
ต้องชำระค่าส่วนกลางตามปกติ
ต้องรับผิดชอบหากผู้เช่ากระทำการละเมิดข้อบังคับ
ต้องปฏิบัติตามระเบียบของนิติบุคคลเกี่ยวกับการแจ้งข้อมูลผู้เช่า
📌 ข้อควรระวัง: หากผู้เช่าละเมิดข้อบังคับ ความรับผิดชอบขั้นสุดท้ายยังคงอยู่ที่เจ้าของห้องชุด
9. การโอนกรรมสิทธิ์
ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด เจ้าของต้องขอหนังสือรับรองการปลอดหนี้จากนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อยืนยันว่าชำระค่าส่วนกลางและหนี้สินทั้งหมดแล้ว
📌 ข้อควรระวัง: หากยังมีหนี้ค่าส่วนกลางค้างอยู่ จะไม่สามารถดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้
10. สิทธิเรียกร้องและการระงับข้อพิพาท
เจ้าของห้องชุดมีสิทธิเรียกร้องหากได้รับความเสียหายจากการบริหารงานไม่โปร่งใส หรือการใช้ทรัพย์ส่วนกลางที่ไม่ถูกต้อง
สามารถใช้สิทธิในการประชุมใหญ่เพื่อคัดค้านหรือขอให้ตรวจสอบ
หากไม่สามารถตกลงกันได้ สามารถฟ้องร้องต่อศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิ
📌 ข้อควรระวัง: การใช้สิทธิเรียกร้องต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและข้อบังคับ เพื่อหลีกเลี่ยงการกลายเป็นข้อพิพาทยืดเยื้อ
สรุป
พระราชบัญญัติอาคารชุดทำหน้าที่รักษาสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลและประโยชน์ร่วมของชุมชน เจ้าของห้องชุดที่เข้าใจประเด็นทั้ง 10 ข้อนี้จะสามารถใช้สิทธิได้ครบถ้วน ปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง และร่วมสร้างสังคมแนวตั้งที่โปร่งใสและมีคุณภาพ
การมีความรู้เชิงลึกในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการป้องกันปัญหา แต่ยังเป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้กับทุกคนที่อยู่อาศัยในอาคารชุด


