Business Model for Office Buildings: กลยุทธ์ใหม่เพื่อความอยู่รอดและเติบโตในตลาดสำนักงานกรุงเทพฯ
- Chakrapan Pawangkarat
- 15 hours ago
- 3 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
6 September 2025

บทนำ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทั้งจากภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายใหม่ระดับเมกะโปรเจกต์ที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้เช่าหลังโควิด, รวมถึงแรงกดดันจากการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG & Net Zero Carbon) สิ่งเหล่านี้ทำให้ โมเดลธุรกิจของอาคารสำนักงานแบบเดิม ไม่เพียงพออีกต่อไป
ในบทความนี้ อยากชวนทุกคนมามองลึกถึง โครงสร้าง Business Model Canvas สำหรับอาคารสำนักงาน พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพตลาดล่าสุด และแนวทางสร้างความแตกต่าง (Value Proposition) ที่จะทำให้อาคารหนึ่ง "อยู่รอด" ไม่ใช่เพียงเพราะทำเล แต่เพราะตอบโจทย์ผู้เช่าได้จริง
1. ภาพรวมตลาดสำนักงานกรุงเทพฯ: จุดเริ่มต้นของโจทย์ธุรกิจ
จากรายงานตลาดสำนักงาน Q2/2025 ของ JLL พบว่า:
ซัพพลายใหม่: มีโครงการ APAC Tower เปิดตัวเพิ่มกว่า 32,000 ตร.ม. ส่งผลให้สต็อกสะสมรวม 10.9 ล้าน ตร.ม.
ดีมานด์: Net Absorption อยู่ที่ +32,700 ตร.ม. แต่ยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับซัพพลายใหม่ ทำให้อัตราว่าง (Vacancy) ขึ้นไปที่ 19.5% โดยเฉพาะเกรด A ที่สูงถึง 24.6%
ค่าเช่า: ค่าเช่าเฉลี่ยตลาด 733 บาท/ตร.ม./เดือน ขณะที่เกรด A อยู่ที่ 1,025 บาท/ตร.ม. ช่องว่างระหว่าง Prime และ Non-Prime กว้างขึ้นเรื่อยๆ
แนวโน้มสำคัญที่ต้องจับตา:
Renewal มากกว่าย้าย (Flight to Cost Efficiency): บริษัทจำนวนมากเลือกต่อสัญญาในอาคารเดิมเพื่อลด CAPEX การรีโนเวทพื้นที่ใหม่
Flight-to-quality: แม้ต้นทุนสูงขึ้น แต่หลายองค์กรยังเลือกอาคารใหม่ที่คุณภาพดีกว่า โดยมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อภาพลักษณ์และการดึงดูดบุคลากร
Tenant-favourable Market: ผู้ให้เช่าต้องเพิ่มความยืดหยุ่นทั้งในด้านค่าเช่า, ระยะเวลา, และสิ่งจูงใจ เช่น fit-out contribution หรือ rent-free period
นี่คือบริบทที่ผู้พัฒนาและผู้บริหารอาคารต้องเผชิญ และเป็นตัวตั้งต้นของการออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
2. Building the Future of Real Estate: เทรนด์ที่เปลี่ยนเกม
อาคารสำนักงานในอนาคตจะไม่ได้แข่งขันกันแค่ “ทำเล” แต่เป็นการแข่งกันที่ คุณค่า (Value) และ ประสบการณ์ (Experience) ที่ส่งมอบให้ผู้เช่า
2.1 Future of Work & Hybrid Workplace
ผู้คนกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศมากขึ้น แต่ยังต้องการ ความยืดหยุ่น
องค์กรจึงวางกลยุทธ์ workplace ระยะยาว เช่น การ consolidate สำนักงานเข้าสู่ prime building, การออกแบบ space efficiency
2.2 Flight-to-quality
ผู้เช่ามุ่งหาอาคารคุณภาพสูงที่มีมาตรฐาน Well-being, Sustainability, Smart Building
อาคารเกรด B/C หากไม่รีโนเวทจะเสี่ยง functional obsolescence และถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
2.3 ESG & Sustainability
ความต้องการอาคาร Green-certified พุ่งสูง แต่ซัพพลายยังไม่เพียงพอ
5 ใน 10 องค์กรใหญ่ตั้งเป้าให้พอร์ตเป็นอาคารเขียว 100% ภายในปี 2025
2.4 Occupier Preferences ใหม่
Technology: Smart Building, High-speed Wi-Fi, Mobile App
Well-being: Air quality monitoring, Flexible A/C hours, Community spaces
Sustainability: Green lease, EV charging, Energy-efficient design
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า โมเดลธุรกิจของอาคารสำนักงานต้องปรับใหม่ เพื่อให้อยู่รอดในบริบทนี้
3. Business Model Canvas: 9 องค์ประกอบเพื่อการออกแบบโมเดลธุรกิจอาคารสำนักงาน
3.1 Customer Segments (CS) – กลุ่มลูกค้าหลากหลายมิติ
การแบ่งเซ็กเมนต์ไม่ใช่แค่ขนาดพื้นที่ แต่รวมถึง:
ค่าเช่า: >1,000, 800–1,000, 600–800, <600 บาท/ตร.ม.
ทำเล: CBD, Central North, East, South ฯลฯ
อุตสาหกรรม: Finance, Trading, E-commerce, Professional Services ฯลฯ
ขนาดพื้นที่เช่า: <100, 100–250, 250–500, 500–1000, >1000 ตร.ม.
3.2 Value Propositions (VP) – คำตอบของความต้องการ
Smart Building: Automation, Tenant App, Sustainability
Performance: Floor plate ที่ยืดหยุ่น, Energy-saving, High-speed lift
Customization: Lease terms ที่ยืดหยุ่น, Flexible house rules
Safety & Risk reduction: ระบบ Fire Safety, Security, PM services
Convenience: Transport accessibility, Food court, Mixed-use facilities
3.3 Channels (CH) – เส้นทางเข้าถึงลูกค้า
Awareness: Agent, Online Ads, Influencer
Evaluation & Purchase: Sales rep, Agent
Delivery & After sales: Property management, Community app
3.4 Customer Relationships (CR) – สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
ปัจจุบัน: Personal assistance, Dedicated agents
อนาคต: Online self-service, Mobile App, Co-creation, Communities
3.5 Revenue Streams (RS) – แหล่งรายได้ที่หลากหลาย
Leasing (3-year / flexible)
Co-working, Parking, Utilities
Advertising (billboards, façade wrap)
Exit strategy: REIT, Office condo
3.6 Key Resources (KR) – ทรัพยากรหลัก
Physical: Office space
Intellectual: Brand, Know-how, Customer insights
Human: Property management team, Development team
Financial: Land, Capital investment
3.7 Key Activities (KA) – กิจกรรมสำคัญ
Development: Land acquisition, Design, Construction
Property management
Marketing & Leasing
Problem solving (Legal, IT, Engineering consulting)
3.8 Key Partnerships (KP) – เครือข่ายพันธมิตร
Strategic alliance (non-competitors)
Coopetition (คู่แข่งในย่านเดียวกันร่วมมือกัน)
Joint Venture
Buyer-supplier relationships
3.9 Cost Structure (CS) – โครงสร้างต้นทุน
Fixed: Insurance, Property tax, PM fee, Maintenance
Variable: Utilities, Security, Cleaning
Economies of Scale: Portfolio advantage
Economies of Scope: บริการเสริม เช่น Cleaning, Security, Furniture
4. มุมมองเชิงกลยุทธ์: โมเดลธุรกิจแบบไหน “อยู่รอดและเติบโต”
เมื่อมองทั้งตลาดและโมเดลธุรกิจ สิ่งที่ชัดเจนคือ:
ทำเลไม่ใช่คำตอบเดียว: แม้อาคารจะอยู่ CBD แต่หากไม่ตอบโจทย์ด้าน Well-being, Tech, ESG ก็จะไม่สามารถแข่งขันได้
Value Proposition ต้องเฉพาะเจาะจง: เช่น การชู Smart Building, Flexible Leasing, หรือ ESG positioning
Partnership เป็นกุญแจ: ความร่วมมือระหว่างเจ้าของ–ผู้บริหาร–คู่แข่งในย่านเดียวกัน ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่ม Economy of Scale
Diversified Revenue: การพึ่งพาค่าเช่าเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องสร้างรายได้เสริม เช่น Advertising, Co-working, Digital services
บทสรุป
ตลาดอาคารสำนักงานกรุงเทพฯ กำลังอยู่ในช่วง Disruption ครั้งใหญ่ ซัพพลายใหม่เข้ามาไม่หยุด ขณะที่ดีมานด์จริงยังชะลอ ผู้เช่ามองหาความคุ้มค่าและคุณภาพมากกว่าเดิม โมเดลธุรกิจที่ยึดติดกับ “ค่าเช่าและทำเล” อย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป
กุญแจสู่ความสำเร็จในยุคนี้คือการสร้าง Business Model ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกมิติ — ตั้งแต่ Customer Segment ที่หลากหลาย, Value Proposition ที่เน้นคุณภาพและ ESG, ช่องทางการเข้าถึงที่ทันสมัย, ไปจนถึงการกระจายรายได้
ในฐานะผู้บริหารอาคารและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เราต้องไม่เพียงแค่ “ตาม” ตลาด แต่ต้อง “นำ” ตลาดด้วยการออกแบบโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้เช่า และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต