DEI ในงานบริหารอาคาร: จากแนวคิดสู่การปฏิบัติจริง
- Chakrapan Pawangkarat
- Sep 4
- 2 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
4 September 2025

บทนำ: เมื่อ “ความหลากหลาย” กลายเป็นกลยุทธ์การบริหารอาคาร
ในยุคที่โลกธุรกิจกำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี การบริหารอาคาร (Property Management) ไม่ใช่เพียงเรื่องการดูแลอาคารให้พร้อมใช้งาน แต่ยังหมายถึงการสร้างคุณค่าให้กับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่เจ้าของอาคาร ผู้เช่า พนักงาน ไปจนถึงชุมชนรอบข้าง
หนึ่งในหัวข้อที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางคือ DEI: Diversity, Equity, and Inclusion หรือ “ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม” หลักการนี้เริ่มจากวงการทรัพยากรบุคคลและองค์กรธุรกิจ แต่กำลังถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างจริงจังในงานบริหารอาคาร เพื่อสร้าง พื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึงได้ รู้สึกมีคุณค่า และเติบโตได้อย่างเท่าเทียม
DEI คืออะไร? และทำไมจึงสำคัญต่อ Property Management
Diversity (ความหลากหลาย)คือการยอมรับความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย วัฒนธรรม ศาสนา ความสามารถทางกาย ภาษา ไปจนถึงรูปแบบการใช้ชีวิต
Equity (ความเสมอภาค)ไม่ใช่แค่การปฏิบัติเหมือนกัน แต่คือการจัดสรรทรัพยากร โอกาส และการสนับสนุนให้เหมาะกับบริบทของแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้
Inclusion (การมีส่วนร่วม)คือการทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง มีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น และสามารถมีบทบาทในการกำหนดทิศทางหรือกิจกรรมในอาคารได้
สำหรับการบริหารอาคาร DEI สำคัญเพราะ:
อาคารคือ “พื้นที่รวมคน” ที่มีผู้เช่าหลากหลาย ทั้งองค์กรท้องถิ่นและข้ามชาติ
การบริการต้องรองรับคนหลายกลุ่ม ทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ และแรงงานต่างชาติ
นักลงทุนและผู้เช่าจำนวนมากประเมินมูลค่าอาคารจาก ESG (Environment, Social, Governance) ซึ่ง DEI คือหัวใจสำคัญของส่วน Social
DEI ในการบริหารทีมงาน (Internal Workforce)
1. การสรรหาและคัดเลือกพนักงาน
การสรรหาที่คำนึงถึงความหลากหลายทำให้องค์กรได้คนที่มีมุมมองและทักษะที่แตกต่าง เช่น
ใช้ inclusive job description ไม่กำหนดเพศหรืออายุเกินจำเป็น
เปิดโอกาสให้คนพิการเข้ามาร่วมงาน เช่น call center, documentation, หรือระบบ digital
2. การพัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ
ในวงการบริหารอาคาร พนักงานหลายคนเริ่มต้นจาก technician, admin หรือ customer service การมี career path ที่เท่าเทียม และ mentoring program จากหัวหน้าช่วยให้ทุกคนมีโอกาสขึ้นมาเป็น Property Manager ได้จริง
3. การสร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง
จัด training ด้าน unconscious bias ให้พนักงานและหัวหน้า
มี employee resource groups (ERG) เช่น Women in Facility, Young Leaders, Multicultural Club
จัดพื้นที่สำนักงานที่เป็น universal design เช่น ห้องน้ำคนพิการ, โต๊ะทำงานปรับระดับ
DEI ในการบริการผู้เช่าและผู้ใช้อาคาร (Tenant & Customer Experience)
1. การสื่อสารที่ครอบคลุม
ป้ายประกาศและคู่มืออพยพควรมี หลายภาษา (ไทย อังกฤษ จีน) และใช้ icon ที่ชัดเจน
สื่อสารผ่านหลายช่องทาง เช่น email, แอปพลิเคชันอาคาร, LINE OA เพื่อให้ทุก tenant เข้าถึงได้
2. การออกแบบพื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึงได้
ทำ accessibility audit เพื่อตรวจสอบเส้นทางล้อเข็น ทางลาด ลิฟต์ ปุ่มกด Braille
จัด wayfinding system ที่ช่วยผู้สูงอายุและคนพิการทางสายตา
3. การสร้างกิจกรรมที่รวมทุกคน
จัด Tenant Engagement Activities ที่สะท้อนความหลากหลาย เช่น Cultural Day, Family Day, Wellness Week
มี tenant feedback platform ที่ทุกคนกล้าแสดงความเห็นโดยไม่ถูกมองข้าม
DEI ในการบริหารคู่ค้าและซัพพลายเชน (Vendors & Contractors)
1. Supplier Diversity
อาคารสามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้โดยเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่มาจากผู้ประกอบการหลากหลาย เช่น
ธุรกิจ SME ท้องถิ่น
ผู้ให้บริการที่มีนโยบาย Fair Labor
2. สัญญาและการปฏิบัติที่เป็นธรรม
สัญญาควรชัดเจน โปร่งใส ไม่กดราคาแรงงาน
จัดทำ whistleblower channel สำหรับแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติที่อาจถูกเอาเปรียบ
DEI + ESG: คุณค่าที่มากกว่า Compliance
ในยุคที่นักลงทุนและผู้เช่ามองหาอาคารที่มีคุณค่าเชิง ESG การบูรณาการ DEI ช่วยให้:
ด้านสังคม (Social): อาคารถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ยอมรับทุกคน
ด้านธรรมาภิบาล (Governance): ความโปร่งใสและความเสมอภาคใน vendor management
ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental): DEI ทำงานคู่กับ sustainability เช่นออกแบบพื้นที่สีเขียวที่ทุกคนเข้าถึงได้
ตัวอย่างการประยุกต์ DEI ในงานบริหารอาคารจริง
Zero Barrier Building Campaignทำ audit อาคารว่ามี barrier ต่อผู้พิการหรือไม่ พร้อมปรับปรุง
Tenant Inclusion Committeeเชิญตัวแทนผู้เช่าหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมเสนอ feedback ต่อการบริหาร
DEI Metrics for Property Manager
อัตรา retention ของพนักงาน diverse group
ความพึงพอใจของผู้เช่าด้าน inclusivity
จำนวน vendor ที่ผ่านเกณฑ์ diversity
อนาคตของ DEI ใน Property Management
ในอีก 5–10 ปีข้างหน้า อาคารที่ไม่คำนึงถึง DEI จะถูกมองว่า “ล้าหลัง” ทั้งในมุมตลาดและสังคม ขณะที่อาคารที่มี DEI จะเป็นตัวเลือกหลักของบริษัทสากล นักลงทุนกองทุน ESG และผู้เช่าที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์องค์กร
เราจะเห็นแนวโน้ม:
การใช้ Digital Platform ในการวัดผล DEI (เช่น dashboard การจ้างงานหลากหลาย, tenant survey แบบ real-time)
การรวม DEI เข้ากับ Green Building Certification เช่น WELL, Fitwel
การประเมินมูลค่าอาคารที่ให้คะแนนด้าน social impact เพิ่มขึ้น
สรุป: DEI ไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่คือ “มาตรฐานใหม่”
การนำ DEI มาใช้ในงานบริหารอาคารไม่ใช่เพียงเรื่อง CSR หรือภาพลักษณ์องค์กร แต่คือ กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างคุณค่าให้กับทุกฝ่าย
พนักงาน → ได้โอกาสที่เท่าเทียม
ผู้เช่า → ได้รับประสบการณ์ที่ครอบคลุมและเป็นธรรม
เจ้าของอาคาร → ได้ความเชื่อมั่นและผลตอบแทนระยะยาว
ชุมชน → ได้พื้นที่ที่เป็นของทุกคน
เมื่อ Property Management ก้าวไปสู่การเป็น “Inclusive Management” จริง ๆ อาคารจะไม่ใช่แค่สิ่งก่อสร้าง แต่จะกลายเป็น พื้นที่ที่ขับเคลื่อนคุณค่าทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์


