top of page

Preparing the Team for Tech-Enabled Building Operations

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

Head of Property Management, JLL Thailand

เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

15 September 2025


ree

การเตรียมทีมสำหรับการบริหารอาคารด้วยเทคโนโลยี



บทนำ: เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของงานบริหารอาคาร


โลกของการบริหารอาคารในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการดูแล “สิ่งปลูกสร้าง” อีกต่อไป แต่ได้ขยับสู่การเป็น ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงข้อมูล เทคโนโลยี และผู้ใช้งาน เข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น อาคารสมัยใหม่มีทั้ง Building Management System (BMS), Computerized Maintenance Management System (CMMS), IoT sensors, Digital Twin, Energy Dashboard รวมถึงแพลตฟอร์มด้านความยั่งยืนที่บันทึกคาร์บอนฟุตพรินต์แบบ real-time


ทว่า “เทคโนโลยีอย่างเดียว” ไม่สามารถสร้างความสำเร็จได้ หากขาด ทีมที่มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพร้อมในการใช้ประโยชน์จากมันจริงๆ การเตรียมทีมให้พร้อมจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนการลงทุนด้านเทคโนโลยีให้เป็นผลลัพธ์เชิงประสิทธิภาพและคุณค่า


1. Core Knowledge: พื้นฐานความรู้คือเข็มทิศ

ทีมที่ดูแลอาคารต้องมี “รากฐานความเข้าใจ” ที่แข็งแรงเกี่ยวกับระบบอาคารหลัก ไม่ใช่เพียงทักษะเชิงเทคนิคแต่รวมถึงการมองเชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านพลังงานและความยั่งยืน


1.1 HVAC และพลังงานความเย็น

ระบบปรับอากาศและการทำความเย็นมักเป็นตัวการใช้พลังงานสูงสุดในอาคาร ทีมจึงต้องเข้าใจ

  • โครงสร้างของระบบ: Chiller Plant, AHU, FCU, VRF

  • หลักการประสิทธิภาพ: COP, part load efficiency, sequencing

  • ความสัมพันธ์กับภาระอาคาร: occupancy, weather, load profile


1.2 ระบบไฟฟ้าและโหลดพลังงาน

  • การอ่านและวิเคราะห์ single-line diagram

  • Demand management และ peak shaving

  • การผสมผสานพลังงานหมุนเวียน เช่น Solar Rooftop และระบบกักเก็บพลังงาน


1.3 คาร์บอนฟุตพรินต์

  • Scope 1, 2, และ 3 emissions ในบริบทของอาคาร

  • วิธีเก็บข้อมูลกิจกรรม (activity data) และการแปลงเป็น emission factor

  • การเชื่อมโยงกับ ESG reporting และ Green Lease


ประโยชน์: เมื่อทีมเข้าใจระบบพื้นฐานได้ชัด จะสามารถวางแผน ปรับปรุง และพูดคุยกับผู้บริหารด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า


2. Technology Literacy: อ่านค่าเป็น ใช้เครื่องมือได้

การบริหารอาคารที่มีเทคโนโลยีเป็นหัวใจ ไม่ได้หมายถึงการพึ่งพา vendor หรือ consultant ตลอดเวลา แต่ทีมต้อง อ่านค่าและใช้เครื่องมือได้อย่างมั่นใจ


2.1 Building Management System (BMS)

  • เข้าใจ Dashboard, Trend log, Alarm system

  • ใช้ function data export สำหรับวิเคราะห์เชิงลึก

  • แยกแยะระหว่าง fault จริงกับ nuisance alarm


2.2 Computerized Maintenance Management System (CMMS)

  • การสร้างและติดตาม work order

  • KPI ที่วัดจาก CMMS เช่น MTTR, MTBF

  • การใช้ CMMS เชื่อมโยงกับ spare part และ cost tracking


2.3 IoT และ Energy Dashboard

  • Sensor: CO₂, temperature, humidity, occupancy

  • Dashboard: Real-time monitoring, anomaly detection

  • การอ่าน graph และแปลงเป็น insight ที่ actionable


2.4 ศัพท์เทคนิคที่จำเป็น

เช่น: Demand Response, Predictive Maintenance, Digital Twin, API Integration → เพื่อให้ทีมสื่อสารได้ตรงกับผู้เชี่ยวชาญ IT หรือ vendor


3. Data-Driven Mindset: ข้อมูลไม่ใช่ตัวเลข แต่คือเรื่องเล่า


3.1 จากข้อมูลดิบสู่การตัดสินใจ

ข้อมูลพลังงาน ข้อมูลอุณหภูมิ หรือ alarm log ไม่ควรเป็นเพียงตาราง แต่ต้องถูกตีความ เช่น “ทำไมค่า COP ช่วงบ่ายตก?” “ทำไมชั้น 15 มีการร้องเรียนบ่อยกว่าโซนอื่น?”


3.2 การตั้งคำถามกับความผิดปกติ

  • คำถามแบบ Root Cause: “เพราะอะไรระบบถึงโหลดเกิน?”

  • คำถามแบบ Trend: “ค่า base load ของอาคารในวันหยุดสูงผิดปกติหรือไม่?”


3.3 Continuous Improvement

การใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงไม่ใช่การทำครั้งเดียว แต่ต้องเกิดเป็นวงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง


ตัวอย่าง: ทีมงานพบว่า base load ไฟฟ้าตอนกลางคืนสูงเกินไป → ตรวจสอบเจอว่ามี AHU ที่ไม่ได้ตั้ง schedule → ปรับแก้แล้ว monitor ต่อ → ผลคือ energy saving 5%


4. Human & Communication Skills: ทักษะมนุษย์ยังสำคัญที่สุด

แม้เทคโนโลยีจะซับซ้อน แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับ ความสามารถของทีมในการสื่อสารและประสานงาน


4.1 การสื่อสารข้ามทีม

  • วิศวกรต้องอธิบายข้อมูลกับฝ่ายบัญชี → “ค่าไฟสูงขึ้นเพราะ Demand charge”

  • ผู้จัดการอาคารต้องสื่อสารกับผู้เช่า → “ระบบ fresh air เพิ่มขึ้นเพื่อสุขภาพ แต่เราควบคุมพลังงานไว้แล้ว”


4.2 การเล่าเรื่องจากข้อมูล (Data Storytelling)

กราฟเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทำให้ผู้บริหารเข้าใจ ต้องเล่าเป็นเรื่องราว: ปัญหา → ข้อมูลหลักฐาน → ทางเลือก → ผลลัพธ์


4.3 การสร้างความร่วมมือ

อาคารเป็น ecosystem: ทีมวิศวกร, FM, ผู้เช่า, และเจ้าของต้องร่วมมือกัน การมีทักษะ soft skills ทำให้การประสานงานลื่นไหล


5. Mindset & Culture: วัฒนธรรมคือพลังงานที่มองไม่เห็น


5.1 Growth Mindset

ทีมต้องเชื่อว่า “ทุกคนเรียนรู้ได้” → จากช่างเทคนิคที่เคยใช้เครื่องมือแบบ manual สามารถเรียนรู้การอ่าน Dashboard ได้


5.2 Innovation Mindset

ไม่กลัวการลองสิ่งใหม่ เช่น การใช้ AI ช่วยทำนายการบำรุงรักษา หรือทดลองใช้ green cleaning solution


5.3 One-Team Culture

  • ลดเส้นแบ่งระหว่างทีม Operation กับทีม Tenant services

  • ทุกคนมองเป้าหมายร่วมคือ “อาคารที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน”


ผลลัพธ์: ทีมจะไม่ทำงานแบบ reactive แต่กลายเป็น proactive และสร้างคุณค่าที่สูงกว่าหน้าที่พื้นฐาน


สรุป: ทีมพร้อม เทคโนโลยีถึงจะเวิร์ค


การเตรียมทีมสำหรับ Tech-Enabled Building Operations ไม่ใช่การจัดอบรมวันเดียวแล้วจบ แต่เป็น การลงทุนระยะยาว ที่ผสมผสานความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรม

  • ความรู้ระบบพื้นฐาน → เพื่อมีเข็มทิศ

  • การใช้เทคโนโลยีเป็น → เพื่อไม่เสียโอกาสจากเครื่องมือ

  • การคิดเชิงข้อมูล → เพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

  • การสื่อสารและความร่วมมือ → เพื่อสร้างพลังจากคน

  • วัฒนธรรมการเรียนรู้และ One-Team → เพื่อความยั่งยืน


สุดท้ายแล้ว “Tech is the enabler, People deliver results.” เทคโนโลยีคือเครื่องมือ แต่ทีมงานที่พร้อมเท่านั้นที่จะเปลี่ยนมันเป็นผลลัพธ์จริง

Chakrapan Pawangkarat

  • TikTok
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page