การจัดการเหตุการณ์อย่างรอบด้านในงานบริหารอาคาร: กลยุทธ์ที่มากกว่าการรับมือ
- Chakrapan Pawangkarat
- Jul 3
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property and Asset Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
3 July 2025

ในโลกของการบริหารอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ การจัดการเหตุการณ์ (Incident Management) ไม่ใช่แค่เรื่องของการ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” อีกต่อไป แต่มันคือบทพิสูจน์ของความเป็นมืออาชีพของทีมบริหาร และเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของเจ้าของอาคาร ผู้ใช้อาคาร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
บทความนี้ตั้งใจจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจโครงสร้างของ “ระบบจัดการเหตุการณ์” ที่ดี ตั้งแต่แนวคิดหลัก วิธีการปฏิบัติจริง ไปจนถึงผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์ ที่องค์กรในระดับสากลกำลังให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลักการสำคัญของระบบ Incident Management ที่มีประสิทธิภาพ
ระบบที่ดีเริ่มต้นจากวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการเปิดเผย ปรับปรุง และร่วมมืออย่างเป็นระบบ โดยมีหลักคิดสำคัญดังนี้:
เปิดใจเรื่องความผิดพลาด ถ้าเรากลัวที่จะรายงานความผิดพลาด องค์กรก็จะไม่มีโอกาสรู้ว่าอะไรที่ควรแก้ไข
เรียนรู้จากเหตุการณ์ ไม่ใช่ซ่อนมันไว้ ทุกเหตุการณ์คือโอกาสในการตรวจสอบจุดอ่อนของระบบ ไม่ใช่แค่ความผิดของคน
มีหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน ใครทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร ต้องชัดเจนตั้งแต่ต้นเพื่อให้จัดการได้รวดเร็ว
สร้างวัฒนธรรมแบบ “Just Culture”คนรายงานเหตุการณ์ต้องมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรม
ให้ความสำคัญกับทรัพยากร ทรัพยากรต้องถูกจัดลำดับและส่งไปยังปัญหาที่สำคัญที่สุด
ทีมเวิร์กคือหัวใจของระบบที่ยั่งยืน การจัดการเหตุการณ์ที่ดีต้องใช้การประสานงานที่ราบรื่น
ต้องสอดคล้องกับข้อกฎหมายเสมอ เพราะเหตุการณ์หลายกรณีมีผลต่อความรับผิดชอบทางกฎหมาย
ประเภทของเหตุการณ์ที่ต้องจัดการ
ระบบ Incident Management ที่ครอบคลุมต้องสามารถรองรับเหตุการณ์หลากหลายประเภท เช่น:
เหตุการณ์ด้านจริยธรรมและกฎหมาย – การฝ่าฝืนกฎ ระเบียบ หรือแนวปฏิบัติขององค์กร
เหตุการณ์ทางการเงิน – การทุจริต การผิดสัญญา การละเมิดผลประโยชน์ผู้เช่า
เหตุการณ์ด้านความปลอดภัย – การบุกรุก ขู่วางระเบิด หรือปัญหาด้านไซเบอร์
เหตุการณ์ด้านอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม – การบาดเจ็บ เหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (Near Miss) หรือภัยต่อสาธารณสุข
เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความเสียหายของทรัพย์สิน – น้ำท่วม ลิฟต์เสีย หรือไฟไหม้
กระบวนการจัดการเหตุการณ์ 6 ขั้นตอน
Recognition – การรับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ คือหัวใจสำคัญ
Notification – รายงานผ่านช่องทางที่กำหนด พร้อมข้อมูลครบถ้วน
Prioritization – จำแนกระดับความรุนแรง เพื่อจัดลำดับการตอบสนอง
Investigation – วิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกด้วย Root Cause Analysis
Action & Follow-Up – ดำเนินการแก้ไข พร้อมมอบหมายคนรับผิดชอบ
Feedback & Knowledge Sharing – ส่งต่อบทเรียนเพื่อยกระดับทั้งพอร์ต
ใครต้องรับผิดชอบอะไร?
พนักงานทุกคน
สังเกตเหตุการณ์ และรายงานทันที
ร่วมมือในการสอบสวน
นำข้อเสนอแนะไปใช้ และสนับสนุนให้เพื่อนร่วมงานทำเช่นกัน
ผู้จัดการอาคาร / ทีมบริหาร
วางระบบให้ชัดเจน
แจ้งทีมผู้บริหาร/ลูกค้าเมื่อเกิดเหตุร้ายแรง
ปฏิบัติตามกฎหมาย และกำกับดูแลให้เกิดวัฒนธรรมการรายงานที่ปลอดภัย
สื่อสารกับลูกค้าอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์?
เจ้าของอาคารและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีสิทธิที่จะรู้ “เร็ว และตรง”การสื่อสารที่ดีควร:
รายงานเฉพาะข้อเท็จจริง (ไม่ใช้ภาษาชี้นำ)
ไม่สรุปความผิดใครจนกว่าจะมีข้อมูลเพียงพอ
กำหนดระดับความลับ และปรึกษาฝ่ายกฎหมายเมื่อจำเป็น
อย่ารอข้อมูลครบก่อนจะเริ่มรายงาน – ความเร็วสำคัญมาก
เทคโนโลยีช่วยได้แค่ไหน?
ใช้ ซอฟต์แวร์ Incident Management เพื่อจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์แนวโน้ม และติดตามงาน
มี Mobile App ให้พนักงานแจ้งเหตุจากภาคสนามได้ง่ายและเร็ว
ระบบที่ดีควรเชื่อมโยงกับ ระบบอาคารอัจฉริยะ (BMS/IoT) เพื่อแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
วัดผลสำเร็จอย่างไร?
เวลาเฉลี่ยในการแก้ไข
สัดส่วนของเหตุการณ์ที่มีการวิเคราะห์รากเหง้า
เหตุการณ์ซ้ำซ้อนลดลงหรือไม่
ความครบถ้วนในการรายงาน
อุปสรรคที่มักพบ
วัฒนธรรมองค์กรที่ยังกลัวการถูกตำหนิ
ทรัพยากรไม่พอโดยเฉพาะในทีมเล็ก
ความซับซ้อนของอาคารและระบบ
ขาดความต่อเนื่องในการติดตามหลังจากเริ่มใช้ระบบ
อนาคตของ Incident Management
Predictive Analytics – วิเคราะห์แนวโน้มจากข้อมูล
Smart Integration – เชื่อมโยงระบบกับ BMS และ IoT
Mobile-first Approach – ใช้แอปมือถือเป็นช่องทางหลัก
Collaborative Response – แพลตฟอร์มร่วมมือกันระหว่างทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานรัฐ
สรุป
การจัดการเหตุการณ์ไม่ใช่แค่ "งานหลังบ้าน" ของฝ่ายปฏิบัติการ แต่คือ “หน้าตา” ขององค์กรที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ความโปร่งใส และความใส่ใจต่อทรัพย์สินของลูกค้า
หากเราวางระบบดี ฝึกทีมงานให้เข้าใจ และใช้เทคโนโลยีให้เป็น เราจะไม่เพียงรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้น แต่ยังเสริมสร้างชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และความยั่งยืนให้กับทุกอาคารที่เราดูแล


