จับมือกับบริษัทบริหารทรัพย์สินมืออาชีพเพื่อยกระดับทีมบริหารงานภายใน
- Chakrapan Pawangkarat
- Aug 11
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property and Asset Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
11 August 2025

คำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับเจ้าของอาคาร
1. สรุปผู้บริหาร
เจ้าของอาคารบางรายในกรุงเทพฯ เลือกที่จะบริหารอาคารสำนักงานด้วย ทีมงานภายใน (In-house team) เพื่อรักษาการควบคุมโดยตรงและปกป้องวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งเป็นแนวทางที่มีข้อดีในด้านความใกล้ชิดกับการปฏิบัติงาน แต่ก็มักเกิดช่องว่างในด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การปฏิบัติตามมาตรฐาน/กฎหมาย และความสามารถในการแข่งขันกับตลาด
การสร้าง ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ กับบริษัทบริหารทรัพย์สินมืออาชีพ — ในฐานะ ที่ปรึกษาและผู้เสริมศักยภาพ ไม่ใช่ผู้บริหารเต็มรูปแบบ — ทำให้เจ้าของสามารถคงการควบคุมการปฏิบัติงานไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เข้าถึง Best Practice ของตลาด, ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค และภาวะผู้นำด้าน ESG
นี่คือโมเดลผสมที่ได้ ข้อดีทั้งสองด้าน: วัฒนธรรมองค์กรที่เจ้าของขับเคลื่อนเอง พร้อมประสิทธิภาพการดำเนินงานในระดับมืออาชีพ
2. ความท้าทายของทีมบริหารงานภายใน
ขาดข้อมูลเปรียบเทียบจากตลาด (Benchmark): มาตรฐานผลงานถูกกำหนดจากภายใน อาจเกิดความเคยชินจนหยุดพัฒนา
เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว: ทีมอาจไม่ทันต่อ BMS Analytics, AI Optimization หรือเทคนิคการปรับปรุงประสิทธิภาพรุ่นใหม่
ข้อกำหนดด้านกฎหมายและ ESG ซับซ้อนขึ้น: ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางเพื่อตีความและปฏิบัติตาม
ขีดความสามารถจำกัด: โครงการใหญ่ เช่น Retrofit, การขอ/ต่ออายุการรับรอง อาจกระทบงานประจำวัน
3. บทบาทเชิงกลยุทธ์ของบริษัทบริหารทรัพย์สินมืออาชีพในโมเดล In-House
A. ที่ปรึกษากลยุทธ์และการเปรียบเทียบตลาด
ตรวจสอบประสิทธิภาพเทียบกับอาคารในทำเล CBD และมาตรฐานภูมิภาค
ทำให้การดำเนินงานภายในสอดคล้องกับกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและการปล่อยเช่า
ให้คำแนะนำแผนการลงทุนปรับปรุง (Capex) ระยะยาว
B. ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน
ตรวจวิเคราะห์ระบบ HVAC, BMS และระบบพลังงานอย่างละเอียด
วางกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพ Chiller Plant และระบบลม เพื่อให้ทีมภายในนำไปปฏิบัติ
แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเกินขอบเขตงานประจำ
C. ภาวะผู้นำด้าน ESG และการปฏิบัติตามข้อกำหนด
ให้คำแนะนำและดูแลการขอ/ต่ออายุการรับรอง LEED, WELL, TGBI
ตรวจสอบให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, กฎหมายความปลอดภัย และ พ.ร.บ.ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
รวมข้อมูลการดำเนินงานเป็นรายงาน ESG คุณภาพสูงระดับนักลงทุน
D. การฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพทีม
จัดการอบรมต่อเนื่องด้านการประหยัดพลังงาน, การจัดการคุณภาพอากาศ, และเทคโนโลยีใหม่
ให้คำปรึกษาผู้จัดการทีมภายในในการใช้ข้อมูลตัดสินใจด้านปฏิบัติการ
อบรมการใช้งานเทคโนโลยีใหม่เมื่อมีการติดตั้ง
E. สนับสนุนงานจัดซื้อและโครงการพิเศษ
จัดทำ TOR และเอกสารประกวดราคาสำหรับงานซ่อมบำรุงหรือปรับปรุงระบบ
คัดเลือกและแนะนำผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ
ประสานงานการเชื่อมต่อเทคโนโลยีใหม่เข้ากับระบบเดิม
4. โมเดลความร่วมมือที่แนะนำ
ความถี่ในการร่วมงาน
รายไตรมาส: ประชุมทบทวนผลงาน, รายงาน KPI, อัพเดตเทรนด์ตลาด
รายครึ่งปี: ตรวจสอบระบบเทคนิค, ทบทวนประสิทธิภาพพลังงาน
รายปี: ตรวจสอบ ESG, จัดอบรม, วางแผน Capex
การแบ่งบทบาท
ทีมภายใน: งานปฏิบัติประจำวัน, บริการผู้เช่า, ซ่อมบำรุงตามปกติ
บริษัท PM มืออาชีพ: ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์, สนับสนุนเฉพาะด้าน, ทำ Benchmark, นำการปฏิบัติตามกฎและ ESG
KPI ร่วมที่ควรติดตาม
ความเข้มพลังงาน (kWh/ม²/ปี) และประสิทธิภาพระบบทำความเย็น (kW/RT)
คะแนนความพึงพอใจของผู้เช่า
สถานะการรับรอง ESG
การประหยัด OPEX เมื่อเทียบกับฐานข้อมูลเดิม
5. ขั้นตอนการดำเนินงานที่แนะนำสำหรับเจ้าของ
ประเมินช่องว่าง – ตรวจสอบภายในว่าขาดความสามารถหรือทรัพยากรด้านใด
เลือกพันธมิตรที่เหมาะสม – บริษัท PM ที่มีประสบการณ์ตรงกับอาคารและผลงานด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ
กำหนดขอบเขตชัดเจน – ว่าในส่วนไหนบริษัท PM จะให้คำปรึกษา, สนับสนุน, หรือฝึกอบรม โดยไม่ซ้ำซ้อนกับงานทีมภายใน
กำหนด KPI ร่วมกัน – จัดทำ Dashboard ร่วมที่ติดตามผลลัพธ์ตามเป้าหมาย
ทบทวนและปรับปรุง – ประเมินความร่วมมือปีละครั้ง
6. ผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ต่อเจ้าของอาคาร
คงการควบคุมงานปฏิบัติการ แต่ปิดช่องว่างด้านทักษะและความรู้
ปกป้องและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินด้วยการตรวจสอบจากภายนอก
ทันต่อเทคโนโลยีและข้อกำหนด ESG โดยไม่เพิ่มภาระให้ทีมภายใน
สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่ผู้เช่าและข้อกำหนดมีมาตรฐานสูงขึ้น
ข้อสรุป:สำหรับเจ้าของอาคารในกรุงเทพฯ โมเดลผสม — ทีมภายใน + ที่ปรึกษาบริหารทรัพย์สินมืออาชีพ — เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่น ช่วยให้อาคารมี ประสิทธิภาพสูง, ผู้เช่าพึงพอใจ, และความเป็นผู้นำด้าน ESG โดยไม่ต้องยกการควบคุมออกจากมือเจ้าของ
แนวทางนี้จะเปลี่ยนทีมภายในจาก “ผู้ปฏิบัติการที่ดี” ให้เป็น ทีมที่ทำงานได้ในระดับผู้นำตลาด


