ทำไมอาคารสำนักงานในศูนย์กลางเมืองจึงมีค่าเช่าสูงกว่า? : มุมมองจาก Urban Economics และบทบาทของ Property Management
- Chakrapan Pawangkarat
- Oct 5
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
5 October 2025

1. บทนำ
ตลาดอาคารสำนักงานในเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อาคารสำนักงานในเขตศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District: CBD) มีค่าเช่าสูงกว่าอาคารในทำเลรองอย่างมีนัยสำคัญ ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลสะท้อนจากกลไกเศรษฐศาสตร์เมือง (Urban Economics) ที่อธิบายผ่านทฤษฎีทำเล (location theory), ค่าเช่าที่ดิน (land rent), และการกระจุกตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ (agglomeration economics)
2. ทำไมค่าเช่าใน CBD จึงสูง?
2.1 ทำเลและต้นทุนการเดินทาง (Location & Commuting Costs)
ทฤษฎี bid-rent curve ชี้ว่าองค์กรยินดีจ่ายค่าเช่าสูงเพื่ออยู่ใกล้ศูนย์กลาง เนื่องจากช่วยลดต้นทุนการเดินทางและเวลาในการเข้าถึงลูกค้า พันธมิตร และบริการสนับสนุน
พนักงานในเมืองใหญ่ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ เช่น MRT, BTS ซึ่งมักกระจุกตัวใน CBD
2.2 การรวมศูนย์ของธุรกิจ (Agglomeration Economies)
เมื่อหลายบริษัทอยู่ใกล้กัน จะเกิด ผลประหยัดจากการรวมศูนย์ (economies of agglomeration) เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ และโอกาสธุรกิจ
บริษัทในภาคการเงิน กฎหมาย และที่ปรึกษามักเลือก CBD เพราะ “ใกล้คู่ค้า” คือข้อได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์
2.3 Scarcity และกฎหมายผังเมือง
พื้นที่ CBD มีอุปทานจำกัด ทั้งจาก ข้อกำหนด FAR, กฎหมายผังเมือง และการอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างดั้งเดิม
ความขาดแคลนนี้สร้าง economic rent ทำให้ค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2.4 ภาพลักษณ์และแบรนด์องค์กร
การตั้งสำนักงานใหญ่ใน CBD ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ระดับสากล
ผู้เช่าพร้อมจ่ายค่าเช่าแพงกว่าเพื่อเสริมสถานะทางธุรกิจ
3. Property Management: เครื่องมือสร้าง “ค่าเช่าที่สูงที่สุด”
การมีอาคารอยู่ในทำเล CBD เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะรักษาค่าเช่าให้อยู่ในระดับสูงสุด หากขาดการบริหารจัดการที่ดี อาคารอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น Property Management (PM) จึงมีบทบาทสำคัญดังนี้
3.1 การรักษา Economic Rent
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance): รักษาสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงการเสื่อมค่า
การบริหารความเสี่ยงและข้อกำหนด (Risk & Compliance): รับรองว่าอาคารปฏิบัติตามกฎหมาย ความปลอดภัย และมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
3.2 การสร้าง Premium
ESG และ Green Building: อาคารที่ได้มาตรฐาน LEED, TREES หรือ WELL สามารถเรียกค่าเช่าสูงกว่าตลาด
Smart Building Technology: การใช้ BMS, CMMS, Digital Twin เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและประสบการณ์ผู้เช่า
Tenant Engagement: จัด community program, wellness service, หรือ flexible leasing model เพื่อสร้างความภักดีของผู้เช่า
3.3 การยืดอายุและเพิ่มค่าเช่าในระยะยาว
Asset Enhancement Initiative (AEI): การปรับปรุงโถงลอบบี้, ระบบ HVAC, และพื้นที่ส่วนกลางเพื่อแข่งขันกับอาคารใหม่
Repositioning: ปรับกลยุทธ์การตลาดและภาพลักษณ์อาคารให้ตอบโจทย์ผู้เช่ารุ่นใหม่ เช่น tech firms และ start-ups
3.4 การเชื่อมโยงกับเชิงนโยบาย
PM สามารถเป็น “ที่ปรึกษา” ให้เจ้าของในเรื่อง ภาษีที่ดิน, โครงสร้างค่าเช่า, และ การวางกลยุทธ์เชิง ESG เพื่อให้สามารถเรียกเก็บค่าเช่าสูงสุดอย่างเป็นธรรม
4. สรุป
ค่าเช่าสำนักงานใน CBD สูงกว่าเนื่องจากการรวมศูนย์ของธุรกิจ ความสะดวกในการเข้าถึง และความขาดแคลนของที่ดิน ซึ่งล้วนสอดคล้องกับทฤษฎี Urban Economics อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การที่จะรักษาและเพิ่มมูลค่าได้สูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับ คุณภาพการบริหารอาคาร Property Management จึงไม่ใช่เพียงผู้ดูแล แต่คือ ผู้สร้างมูลค่า (value creator) ที่ทำให้อาคารสามารถ “เก็บเกี่ยว economic rent และ premium” ได้สูงที่สุด


