top of page

ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์: ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อลดภาวะโลกร้อน

Updated: Mar 20

จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์

กรรมการและเลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

Head of Property and Asset Management, JLL Thailand

19 March 2025


ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทุกภาคส่วนของสังคมกำลังถูกเรียกร้องให้ก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา แต่มีกลุ่มวิชาชีพหนึ่งที่อยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างมหาศาล นั่นคือ ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ หรือ Property Manager


พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ซ่อนอยู่


คุณอาจไม่ทราบว่า อาคารและสิ่งปลูกสร้างทั่วโลกมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 40% ของทั้งหมด ผ่านการใช้พลังงาน น้ำ และการจัดการขยะ นี่คือสาเหตุที่ทำให้บทบาทของผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน


คุณในฐานะผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ คือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร การบำรุงรักษา และการปรับปรุงระบบต่างๆ ภายในอาคาร การตัดสินใจของคุณในแต่ละวันมีผลต่อการใช้พลังงาน ปริมาณขยะ และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอาคารที่คุณดูแล


ทำไมต้องเป็นคุณ? ทำไมต้องเป็นตอนนี้?


การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น


สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การปรับตัวไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น อาคารที่ไม่ปรับตัวจะเสี่ยงกับ:

  • ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น

  • มูลค่าทรัพย์สินที่ลดลง

  • การไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

  • การสูญเสียผู้เช่าที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน


ในทางกลับกัน อาคารที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนกำลังเห็นผลตอบแทนที่ดีขึ้น:

  • ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

  • เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน

  • ดึงดูดและรักษาผู้เช่าที่มีคุณภาพ

  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อชุมชนและสังคม


เส้นทางสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง


1. เริ่มจากการวัดผลและการตั้งเป้าหมาย


คุณไม่สามารถจัดการสิ่งที่คุณไม่สามารถวัดได้ เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจสถานะปัจจุบันของอาคารของคุณ:


  • ตรวจสอบการใช้พลังงาน: ติดตั้งระบบมิเตอร์อัจฉริยะเพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์

  • วิเคราะห์การใช้น้ำ: ตรวจหาจุดรั่วและโอกาสในการประหยัด

  • ประเมินการจัดการขยะ: วิเคราะห์ประเภทและปริมาณขยะที่อาคารของคุณสร้างขึ้น

  • คำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์: ใช้เครื่องมือคำนวณออนไลน์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ


จากนั้น ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่สามารถบรรลุได้ เช่น ลดการใช้พลังงานลง 20% ภายใน 3 ปี หรือลดปริมาณขยะฝังกลบลง 50% ภายใน 2 ปี


2. ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน


การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก:


  • อัพเกรดระบบแสงสว่าง: เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED ที่ประหยัดพลังงาน และติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว

  • ปรับปรุงระบบ HVAC: การบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการอัพเกรดเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 30%

  • ติดตั้งระบบอัตโนมัติ: ระบบอาคารอัจฉริยะสามารถปรับการใช้พลังงานตามความต้องการที่แท้จริง

  • พิจารณาพลังงานทดแทน: การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หรือเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอื่นๆ


3. จัดการทรัพยากรน้ำอย่างชาญฉลาด


น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ:


  • ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำ: ก๊อกน้ำ ฝักบัว และชักโครกที่ใช้น้ำน้อย

  • เก็บและใช้น้ำฝน: ระบบเก็บน้ำฝนสามารถนำไปใช้รดน้ำต้นไม้หรือชำระล้างห้องน้ำ

  • ปรับปรุงภูมิทัศน์: เลือกใช้พืชที่ทนต่อความแห้งแล้งและระบบรดน้ำแบบหยด

  • ตรวจสอบการรั่วเป็นประจำ: แม้การรั่วซึมเพียงเล็กน้อยก็สามารถสูญเสียน้ำหลายพันลิตรต่อปี


4. ปฏิวัติการจัดการขยะ


การจัดการขยะที่ดีไม่เพียงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถสร้างรายได้:


  • จัดตั้งโครงการรีไซเคิลที่ครอบคลุม: แยกขยะพลาสติก กระดาษ แก้ว และโลหะ

  • ส่งเสริมการลดปริมาณขยะ: ลดการใช้พลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียว

  • พิจารณาการทำปุ๋ยหมัก: เศษอาหารและขยะอินทรีย์สามารถเปลี่ยนเป็นปุ๋ยสำหรับพื้นที่สีเขียวของอาคาร

  • ทำงานร่วมกับผู้เช่า: สร้างแรงจูงใจและให้ความรู้แก่ผู้เช่าเกี่ยวกับการจัดการขยะที่เหมาะสม


5. สร้างวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืน


การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกคนในอาคาร:


  • สื่อสารวิสัยทัศน์ของคุณ: แบ่งปันเป้าหมายและความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนกับผู้เช่าและพนักงาน

  • ฝึกอบรมทีมงาน: ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน

  • จัดกิจกรรมสร้างความตระหนัก: เช่น การแข่งขันประหยัดพลังงานระหว่างชั้นหรือหน่วยงาน

  • ยกย่องและให้รางวัลความสำเร็จ: เฉลิมฉลองชัยชนะเล็กๆ และยกย่องผู้ที่มีส่วนร่วม


6. แสวงหาการรับรองด้านความยั่งยืน

การรับรองไม่เพียงยืนยันความมุ่งมั่นของคุณ แต่ยังเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน:


  • LEED (Leadership in Energy and Environmental Design): มาตรฐานระดับโลกสำหรับอาคารเขียว

  • TREES (Thai's Rating of Energy and Environmental Sustainability): ระบบการรับรองอาคารเขียวของไทย

  • WELL Building Standard: มุ่งเน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้อาคาร

  • ISO 14001: มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม


7. นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด


เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:


  • ระบบอาคารอัจฉริยะ (BMS): ควบคุมและปรับการใช้พลังงานโดยอัตโนมัติ

  • การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่: ใช้ข้อมูลเพื่อระบุแนวโน้มและโอกาสในการประหยัด

  • แอปพลิเคชันสำหรับผู้เช่า: ช่วยให้ผู้เช่าสามารถควบคุมการใช้พลังงานและรายงานปัญหาได้

  • เทคโนโลยี IoT: เซ็นเซอร์อัจฉริยะสามารถติดตามและปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในอาคาร


จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ: เริ่มต้นวันนี้


การเปลี่ยนแปลงอาจดูเหมือนเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่ทุกการเดินทางเริ่มต้นด้วยก้าวแรก นี่คือวิธีที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที:


แผนงาน 30 วันแรก:

  1. วัดและรวบรวมข้อมูล: ตรวจสอบการใช้พลังงาน น้ำ และการสร้างขยะของคุณ

  2. ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว: เขียนวิสัยทัศน์และเป้าหมายด้านความยั่งยืนของคุณ

  3. ระบุ "ผลเร็ว": มองหาโอกาสที่สามารถดำเนินการได้ทันทีและให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว

  4. สร้างทีมแชมเปี้ยน: รวบรวมกลุ่มพนักงานและผู้เช่าที่กระตือรือร้น


แผนงาน 90 วัน:

  1. ดำเนินการตามโครงการ "ผลเร็ว": เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ LED

  2. พัฒนาแผนการสื่อสาร: วิธีการแบ่งปันความคิดริเริ่มและความก้าวหน้าของคุณ

  3. จัดทำงบประมาณสำหรับโครงการขนาดใหญ่: วางแผนการลงทุนด้านความยั่งยืนในอนาคต

  4. สร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตร: ค้นหาผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน


แผนงาน 1 ปี:

  1. เริ่มต้นโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่: เช่น การอัพเกรดระบบ HVAC หรือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

  2. จัดทำรายงานความก้าวหน้าประจำปี: วัดผลและเฉลิมฉลองความสำเร็จ

  3. ขยายผลความสำเร็จ: นำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดไปใช้กับอาคารอื่นๆ ในพอร์ตโฟลิโอของคุณ

  4. พิจารณาการรับรอง: เริ่มกระบวนการขอรับรองมาตรฐานอาคารเขียว


พลังของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง


ในฐานะผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ คุณไม่ได้เพียงดูแลอาคาร แต่คุณยังมีโอกาสในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจ ชุมชน และโลกของเรา คุณกำลังอยู่ในตำแหน่งที่ทรงพลังซึ่งสามารถสร้างผลกระทบที่จับต้องได้ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


เมื่อคุณเริ่มการเดินทางนี้ โปรดจำไว้ว่า:


  • คุณไม่ได้อยู่คนเดียว: มีชุมชนของมืออาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับคุณ

  • ทุกการกระทำมีความสำคัญ: แม้แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เมื่อรวมกันก็สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้

  • เส้นทางสู่ความยั่งยืนคือการเดินทางไม่ใช่จุดหมายปลายทาง: จงฉลองความสำเร็จทุกขั้นตอนระหว่างทาง


โลกของเราต้องการผู้นำอย่างคุณ เพื่อลุกขึ้นมาและเปลี่ยนวิธีที่เราสร้าง ใช้งาน และรักษาสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น ด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นผู้นำของคุณ คุณสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในปัจจุบันและอนาคต


อนาคตของโลกเรากำลังรอคอยผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างคุณ




Acknowledgement:

"This article was generated with the assistance of Claude, an AI language model, and subsequently reviewed and edited by the author."

Comments


Chakrapan Pawangkarat

  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
bottom of page