ผู้นำในงานบริหารอาคารต้องมีความย้อนแย้ง (Paradox) อยู่ในตัว
- Chakrapan Pawangkarat
- Sep 9
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
9 September 2025

1. Global Standards vs. Local Context
ผู้บริหารอาคารยุคใหม่ต้องเข้าใจมาตรฐานสากล เช่น LEED, WELL, WiredScore, SmartScore แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจบริบทผู้ใช้อาคารไทย เช่น ความต้องการห้องพระ, ศาลพระภูมิ, การใช้งานพื้นที่สูบบุหรี่, หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมการใช้พื้นที่ส่วนกลางที่แตกต่างจากตะวันตก
2. Strategist vs. Executor
แผนกลยุทธ์ด้านพลังงาน, Net-Zero Roadmap หรือ Tenant Engagement Program อาจถูกวางไว้อย่างดี แต่ถ้าไม่ลงไปตรวจงานจริง ลงพื้นที่คุยกับผู้เช่า หรือแก้ปัญหา onsite แผนนั้นก็เป็นเพียง “เอกสารสวยงาม” ที่ไม่เกิด impact
3. Political Skill vs. Integrity
ผู้จัดการอาคารอยู่ตรงกลางระหว่าง เจ้าของอาคาร – ผู้เช่า – ผู้รับเหมาต้องมีชั้นเชิงในการเจรจาต่อรอง เช่น การขอผู้เช่าเลื่อนจ่ายค่าเช่าช่วงวิกฤติ หรือการกดราคาผู้รับเหมา แต่ในขณะเดียวกัน ต้องรักษาความโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่น
4. Tech-savvy vs. Humanist
การรู้จัก AI, IoT, Digital Twin เป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องไม่ลืมว่า “คนที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้น” คือหัวใจผู้จัดการที่ดี ต้องใส่ใจแม่บ้านที่อาจใช้แอปแจ้งงานไม่เป็น หรือช่างที่กลัวระบบใหม่ และพร้อมโอบรับพวกเขาไปด้วย
5. Humble vs. Decisive
การเปิดรับ feedback จากทีมคือสิ่งสำคัญ แต่ในยามวิกฤติ เช่น เหตุเพลิงไหม้ หรือระบบดับเพลิงขัดข้อง ผู้นำต้องตัดสินใจชัดเจน ไม่ลังเล
6. Innovator vs. Traditionalist
นวัตกรรมอย่าง Predictive Maintenance, Net-Zero Chiller Plant สำคัญ แต่ก็ต้องไม่ลืมรากฐาน เช่น การตรวจสอบระบบ Fire Pump ตามคู่มือ NFPA หรือการบันทึก Log Sheet ที่ยังเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ได้จริง
Leadership Keys ของผู้จัดการอาคาร
1. Authentic
จริงใจ โปร่งใส เวลามี incident เช่น น้ำรั่ว ไฟดับ ต้องสื่อสารตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด
2. Empathetic
ฟังทีมงาน ฟังผู้เช่า เข้าใจมุมมองและข้อจำกัด เช่น การยืดหยุ่นเวลาทำงานของช่าง หรือการหาทางออกแบบ win-win กับผู้เช่า
3. Adaptive
ยืดหยุ่นกับสถานการณ์ เช่น โควิดทำให้ต้องปรับ cleaning standard, energy crisis ทำให้ต้องปรับ strategy เรื่องไฟฟ้า real-time
ลงทุนใน “คน” เพื่อขับเคลื่อน “ตึก”
Training: อบรมช่างและทีมงานให้เข้าใจระบบใหม่ ไม่ใช่เพียงกดปุ่ม แต่เข้าใจ logic ของระบบ
Mindset: สร้างวัฒนธรรม “Zero Overdue” หรือ “One-Team” ให้ทุกฝ่ายเห็นคุณค่าของการทำงานร่วมกัน
Empowerment: เปิดโอกาสให้ทีมเสนอไอเดีย เช่น วิธีลดพลังงานในระบบ HVAC หรือการปรับ cleaning route ที่มีประสิทธิภาพ
บทสรุป: อาคารที่สำเร็จ ไม่ได้เพราะตึก แต่เพราะ “ทีม”
เทคโนโลยี = Potential คน = Value
อาคารที่ดีไม่ได้มาจากการมีระบบที่แพงที่สุด แต่มาจากการที่มี “ทีมงานที่ใช้มันเป็นและใช้มันเต็มที่”ดังนั้นผู้นำในงานบริหารอาคารยุคนี้ ต้อง ไม่เพียงแค่ลงทุนในระบบ แต่ลงทุนในคนด้วย
เพราะท้ายที่สุด ความสำเร็จของอาคาร คือความสำเร็จของ “คน” ที่อยู่ในอาคารนั้น ✨


