วิศวกรอาคารต้องรู้ EP.5: ลิฟต์–บันไดเลื่อน ระบบขนส่งแนวดิ่งที่ต้องปลอดภัยและเชื่อถือได้
- Chakrapan Pawangkarat
- Apr 18
- 1 min read
จักรพันธ์ ภวังคะรัตน์
Head of Property and Asset Management, JLL Thailand
เลขาธิการ สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
18 April 2025

จากซีรีส์: วิศวกรอาคารต้องรู้
ลิฟต์ไม่ใช่แค่ “ขึ้น–ลง”แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความปลอดภัย ความมั่นใจ และภาพลักษณ์ของอาคารผู้ใช้อาคารสัมผัสลิฟต์ทุกวัน วันละหลายครั้งหากลิฟต์ค้าง ลิฟต์เสียงดัง หรือบันไดเลื่อนสะดุด นั่นคือความเชื่อมั่นที่หายไปและนั่นคือเหตุผลที่ “วิศวกรอาคาร” ต้องดูแลระบบแนวดิ่งนี้ให้ทำงานได้อย่างราบรื่นทุกวัน
ระบบขนส่งแนวดิ่งในอาคารมีอะไรบ้าง
ลิฟต์โดยสาร (Passenger Lift)ระบบลิฟต์ไฟฟ้าที่รับผู้โดยสารทั่วไป มีระบบความปลอดภัย เช่น Door Sensor, Emergency Brake, Emergency Light, Emergency Call
ลิฟต์ขนของ (Freight Lift)สำหรับขนสัมภาระ ขนาดใหญ่ รับน้ำหนักมาก เหมาะกับอาคารที่มีพื้นที่บริการหรือโรงแรม
บันไดเลื่อน / ทางเลื่อนอัตโนมัติ (Escalator / Moving Walk)ใช้ในพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านพลุกพล่าน เช่น ห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้าต้องมีเซ็นเซอร์หยุดฉุกเฉิน และแปรงป้องกันสิ่งของติดข้างบันได
Fireman Lift – ลิฟต์ดับเพลิงลิฟต์ที่ออกแบบพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โดย
มี Fireman Switch เฉพาะที่ชั้นล่าง
เชื่อมกับระบบไฟสำรองและสายไฟทนไฟ
ห้อง Shaft ต้องกันไฟได้ 2 ชั่วโมง
มี Fire Lobby ปลอดควัน และสามารถเข้าถึงบันไดหนีไฟ
ทำงานร่วมกับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เพื่อกลับมาชั้นล่างอัตโนมัติ
ใช้ควบคุมด้วยเจ้าหน้าที่ผ่านกุญแจหรือสวิตช์เฉพาะ
สิ่งที่วิศวกรอาคารต้องตรวจสอบเป็นประจำ
ตรวจสอบการทำงานของลิฟต์ทุกวัน เช็กเสียง ระบบประตู พัดลม แสง และ Emergency Call
บันทึก Load Test และตรวจสอบระบบเบรกตามรอบรายปี
ตรวจสอบระบบสำรองไฟ และ Fireman Switch ให้ทำงานได้เสมอ
บันไดเลื่อน – ทดสอบ Emergency Stop ทุกสัปดาห์
เช็กพื้น Shaft และห้องเครื่องว่าไม่มีน้ำซึมหรือสิ่งแปลกปลอม
สังเกตความสะอาด กลิ่น เสียง ที่อาจบ่งบอกปัญหาล่วงหน้า
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กฎกระทรวงควบคุมอาคาร ฉบับที่ 33
อาคารสูง/อาคารขนาดใหญ่พิเศษต้องมีลิฟต์อย่างน้อย 1 ตัว หากสูงกว่า 23 เมตร
ลิฟต์ต้องมีระบบไฟฟ้าสำรอง (เช่น Generator หรือ UPS)
ห้อง Shaft ต้องแยกจากบันไดหนีไฟ
ต้องมี Fireman Lift พร้อม Fireman Lobby อย่างน้อย 1 ตัว
ระบบลิฟต์ต้องเชื่อมกับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ และควบคุมจากศูนย์ควบคุมอาคารได้
กฎกระทรวงความปลอดภัยเกี่ยวกับลิฟต์ พ.ศ. 2564
(ตาม พ.ร.บ. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554)
ลิฟต์และบันไดเลื่อนในสถานประกอบการทุกประเภทต้อง
ตรวจสอบโดยผู้วิศวกรที่ได้รับอนุญาต
Full Load Test อย่างน้อยปีละครั้ง
หากพบความผิดปกติ ต้องหยุดใช้งานทันที
ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ติดลิฟต์
จัดเก็บเอกสาร: รายงานตรวจสอบ, บันทึกการซ่อมบำรุง, ใบอนุญาตของผู้ตรวจสอบ
แนวทางดูแลระบบขนส่งแนวดิ่งอย่างมืออาชีพ
ใช้ระบบ BMS หรือแอปของผู้ผลิตเพื่อติดตามสถานะลิฟต์แบบ Real-time
กำหนด KPI ความพร้อมใช้งาน เช่น "ลิฟต์ต้องพร้อมใช้งาน > 99%"
ทำแผนบำรุงเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) รายเดือน รายปี
ประสานกับบริษัทลิฟต์เพื่อสำรองอะไหล่หรือจัดช่าง Standby กรณีใช้งานสูง
สื่อสารกับผู้ใช้อาคารอย่างโปร่งใส หากลิฟต์ต้องหยุดซ่อม – มีป้าย มีข้อมูลช่องทางแจ้งเหตุ
สรุปท้ายบท
ระบบลิฟต์ที่ดี ไม่ใช่แค่ “มีไว้ใช้งาน”แต่ต้อง “ปลอดภัย เสถียร ประหยัดพลังงาน และพร้อมช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน”และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มี “วิศวกรอาคาร” ที่เข้าใจระบบและใส่ใจในรายละเอียด
EP.6: ระบบความปลอดภัยอัคคีภัย – ไม่ใช่แค่ดับไฟ แต่ต้องช่วยชีวิตได้จริงรอติดตามได้ที่ www.jack-journal.com และเพจ Jack Journal มีเรื่องมาเล่า
Acknowledgement:
"This article was generated with the assistance of ChatGPT, an AI tool, and subsequently reviewe and edited by the author."
Comentarios