หัวใจของการเป็นผู้นำ
- Chakrapan Pawangkarat
- Jun 19
- 1 min read

“สิ่งที่เขาควบคุมได้ดีที่สุด ไม่ใช่เอกสาร ไม่ใช่แผนงาน… แต่คือการควบคุมตัวเองให้ยอมรับว่า เขาไม่เก่งที่สุดในทีม”
(1) เริ่มต้น: ผู้จัดการที่ควบคุมทุกอย่าง
“เซ็นให้ผมอีกทีนะครับหัวหน้า”
เสียงของภูมิ วิศวกรประจำอาคาร ทำให้คุณศักดิ์ชัยเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าราบเรียบ แล้วรับเอกสารมาเปิดดู
เขาตรวจทุกช่อง ทุกคำ ทุกบรรทัด
แม้แต่ลายเซ็นของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานร่วมกันมานาน เขาก็ยังขีดวงไว้ แปะโพสต์อิท พร้อมคำว่า “ตรวจสอบใหม่”
“ไปดูอีกทีนะครับ เหมือนไม่ตรงกับแบบ”
เขาพูดเพียงเท่านั้น แล้วส่งเอกสารคืนไป
ภูมิรับไปเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
แต่คุณศักดิ์ชัยเองก็รู้ดี ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่…
และเขาก็ไม่เคยแคร์
เพราะสำหรับเขา
“หน้าที่ของหัวหน้าคือไม่ให้มีอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว”
(2) ความเชื่อที่หยั่งราก
ศักดิ์ชัยเติบโตในครอบครัวทหาร
คุณพ่อของเขาสอนเสมอว่า “ถ้าเราไม่ทำให้เป๊ะ คนอื่นจะทำพลาด และสุดท้าย… ทุกอย่างจะพัง”
เขาซึมซับสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้ง
พอวันหนึ่งได้ก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการอาคาร เขาก็สวมบท “ผู้ควบคุม” แบบเต็มที่
ทุกกระบวนการต้องผ่านเขา
ทุกรายงานต้องตรวจโดยเขา
ทุกข้อเสนอจากลูกทีมต้องได้รับอนุมัติก่อนเสมอ
เขาไม่เคยไว้ใจใคร แม้แต่ทีมที่ทำงานกับเขามาเป็นปีๆ
เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตรวจ และการตอกย้ำความผิด
เขาเชื่อว่า “การควบคุม” คือมาตรฐานของความเป็นมืออาชีพ
จนกระทั่งวันหนึ่ง…
(3) เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต
โครงการใหญ่ที่สุดในปีนั้นมาถึง
เป็นงานปรับปรุงระบบน้ำดีทั้งอาคาร สูง 30 ชั้น
ศักดิ์ชัยวางแผนล่วงหน้าเป็นเดือน
เขาเป็นคนอนุมัติแบบงานเอง
คุมประชุมเปิดโครงการด้วยตัวเอง
และย้ำทุกฝ่ายว่า “ห้ามเปลี่ยนวิธีทำงานเองโดยพลการเด็ดขาด”
งานเริ่มต้นได้เพียงสองวัน
ลูกบ้านที่ชั้น 23 โทรเข้ามาร้องเรียนว่า “มีน้ำซึมเข้าห้องนอน”
เขารีบขึ้นไปดูทันที
และพบว่าพื้นห้องปูไม้เริ่มบวม
น้ำไหลซึมขึ้นมาจากด้านล่าง
ไม่กี่นาทีต่อมา
โทรศัพท์จากชั้นอื่นก็ดังขึ้น — ปัญหาเดียวกัน
เมื่อหยุดระบบน้ำ และตรวจสอบอย่างละเอียด
ทีมงานพบว่า ข้อต่อท่อน้ำที่ใช้ผิดแบบ
เป็นรุ่นที่เหมาะกับแรงดันอาคารแนวราบมากกว่าอาคารสูง
ทำให้น้ำซึมออกจากท่อที่ฝังอยู่ใต้พื้นโดยไม่มีใครรู้
เขายืนเงียบอยู่ในห้องควบคุม
สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ในใจวูบลึก
ภูมิเดินเข้ามาช้าๆ แล้วพูดแผ่วเบา…
“หัวหน้าจำได้ไหมครับ วันที่ผมขอเสนอว่าแบบข้อต่ออาจจะไม่เหมาะ…
…แต่ผมไม่ได้พูดต่อ เพราะหัวหน้าย้ำว่าทุกอย่างต้องเป๊ะตามแผน”
คำพูดนั้น…
เหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่ศักดิ์ชัยกลางอก
เขานึกย้อนออกทันทีว่าเคยปัดมือภูมิออกตอนที่เขาเสนอจุดปรับเปลี่ยน
พร้อมพูดสั้นๆ ว่า “อย่าเปลี่ยนจากที่ผมอนุมัติเด็ดขาด”
(4) เสียงที่เขาไม่เคยฟัง
คืนนั้นเขานั่งอยู่ในห้องควบคุมคนเดียว
มองแผนผังระบบน้ำบนผนัง
แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความเงียบจากทีม
เงียบ… เพราะไม่มีใครกล้าพูด
เขาเริ่มนึกย้อน
ถึงช่างที่เคยเสนอวิธีประหยัดเวลาแต่ถูกเขาปัดตก
ถึงแอดมินที่อยากลองระบบจัดเก็บเอกสารแบบใหม่ แต่โดนสั่งให้ทำตามรูปแบบเดิม
ถึงวิศวกรที่เคยเงยหน้าขึ้นจะพูด แต่สุดท้ายก็ก้มลงเงียบ
เขาคิดว่าเขาคุมได้ทุกอย่าง
แต่จริงๆ แล้ว… เขาไม่ได้คุมอะไรเลย
เพราะคนรอบตัวเขา ไม่กล้าพูดแม้จะเห็นว่าเขากำลังผิด
(5) วันที่ศักดิ์ชัยเปลี่ยน
เช้าวันถัดมา
เขาเรียกประชุมทีมงานทั้งหมด
ในห้องประชุมที่เคยตึงเครียด
วันนี้ ศักดิ์ชัยยืนขึ้นต่อหน้าทุกคน และพูดเพียงไม่กี่ประโยค…
“เหตุการณ์นี้คือความผิดของผม
ผมปิดกั้นความคิดเห็นของพวกคุณ
ตั้งแต่วันนี้ไป… ถ้าคุณคิดว่าผมตัดสินใจพลาด ขอให้พูด
ผมอาจจะไม่เห็นด้วยทันที แต่ผมจะฟังทุกคำ”
ห้องประชุมยังคงเงียบ
ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีคำชม
แต่ในแววตาหลายคู่… เริ่มมีแสงบางอย่างส่องขึ้นมา
(6) ผู้นำที่ฟังมากกว่าสั่ง
หลังจากวันนั้น
ศักดิ์ชัยเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ ก่อน
เขาเริ่มถาม “คุณคิดว่ายังไง?” แทนคำสั่ง
เขาเริ่มเปิดให้มีการทดลองวิธีทำงานใหม่
เริ่มให้ลูกทีมเสนอแผน และเขาเป็นผู้ฟัง
หลายครั้ง เขาพบว่าทีมมีไอเดียที่ดีกว่า
และน่าแปลก… ยิ่งเขา “ลดอัตตา” เท่าไหร่
ผลลัพธ์ของทีมก็ดีขึ้นเท่านั้น
จนวันหนึ่ง เขาได้ยินคำจากรุ่นน้องคนหนึ่ง
ที่พูดกับน้องใหม่ว่า
“หัวหน้าเราน่ะเหรอ… เดี๋ยวนี้เหมือนโค้ชเลย ไม่ใช่เจ้านาย”
(7) สะท้อนหัวใจตัวเองอีกครั้ง
ศักดิ์ชัยยังเป็นคนละเอียด
ยังใส่ใจทุกจุดของระบบ
แต่เขาเลิกเป็นคนที่คิดว่าตัวเองต้อง “รู้ทุกอย่าง”
และเขาเลิกตีความ “ความเงียบ” ว่าเป็น “ความเคารพ”
เขาเรียนรู้ว่า
ผู้นำไม่ใช่ผู้ควบคุมทุกอย่าง… แต่คือคนที่ทำให้ทุกคนกล้าคิด กล้าทำ และกล้าเติบโต
(8) ข้อคิดจากศักดิ์ชัย ถึงผู้จัดการทุกคน
“วันหนึ่งผมพบว่า…
ความรู้ของผมไม่ได้สำคัญเท่ากับ ‘ความกล้าพูดของทีม’
เพราะต่อให้ผมเก่งแค่ไหน
ถ้าไม่มีใครบอกผมว่า ‘หัวหน้ากำลังจะผิด’
…ผมก็จะผิดไปโดยไม่มีใครหยุดผมได้เลย”
(9) หัวใจของการเป็นผู้นำ
“ถ้าผู้นำยอมลดอัตตา ทีมจะยกผลลัพธ์ขึ้นได้สูงกว่าใคร”
หัวใจของการเป็นผู้นำ
ไม่ใช่การยืนเด่นที่สุดในห้อง
แต่คือการทำให้คนรอบข้าง… “กล้ายืนขึ้นด้วยกัน”


